ใครอยากหารายได้เสริม แต่ยังไม่มีไอเดียว่าจะขายของกินอะไรดี มาทางนี้! Grab รวมเมนูสร้างอาชีพ ไอเดียทำอาหารขายออนไลน์ ที่ทำแล้วได้กำไรมาไว้ให้แล้ว ระวังจะขายดีจนทำไม่ทัน ยุคนี้ใคร ๆ ก็สามารถขายของกินได้ง่าย ๆ แค่มีฝีมือและมีความรู้ในการทำธุรกิจก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีทุนเปิดร้านใหญ่โตก็ได้ เพราะมีช่องทางขายมากมายเต็มไปหมด เช่น ขายทางออนไลน์ ขายในไลน์กลุ่มหมู่บ้าน ขายในสำนักงาน ขายผ่านแอปฯ เดลิเวอรีผ่าน Grab ฝากขายตามร้านอาหาร-คาเฟ่ ตั้งโต๊ะขายหน้าบ้านตอนเย็น ไปดูกันเลยว่าจะมีไอเดียทำอาหารขายออนไลน์อะไรบ้าง
1. ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนหมูสับ
วัตถุดิบก๋วยเตี๋ยวลุยสวนหมูสับ
- แผ่นก๋วยเตี๋ยว 300 กรัม
- หมูสับ 200 กรัม
- แครอทหั่นเต๋า 100 กรัม
- เห็ดหอมแห้ง 3 ดอก
- กระเทียม 20 กลีบ
- น้ำมันรำข้าว 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ ⅛ ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
- พริกไทยป่น ½ ช้อนชา
- ผักกาดหอม
- แครอท
- ใบสะระแหน่
- ผักชีฝรั่ง
วัตถุดิบน้ำจิ้มก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
- น้ำส้มสายชู 4 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 2 ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมกลีบเล็ก 15 กลีบ
- พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด
- ผักชีไทย 1 ต้นเล็ก
- รากผักชี 1 ต้น
- ใบโหระพา 15 ใบ
- ใบสะระแหน่ 15 ใบ
วิธีทำ
ผัดไส้ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป ตามด้วยกระเทียม หากสังเกตกระเทียมเริ่มเหลือง ให้ใส่เห็ดหอมลงไปผัดให้หอม ตามด้วยหมูสับ ใช้ตะหลิวขยี้หมูสับให้กระจายตัว แล้วตามด้วยแครอท
- ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว ตามด้วยน้ำตาลทราย เกลือ พริกไทยป่น
- คลี่แป้งออก วางผักกาดหอม ผักชีฝรั่ง ใบสะระแหน่ และแครอท ตามด้วยไส้หมูที่ทำเสร็จแล้ว
- ห่อแป้งโดยการพับหัวและท้ายของตัวแป้งและม้วนปิด
- จัดวางผักและหมูสับ ห่อผักและหมูสับ ตัดเป็นชิ้นพอดีคำ
น้ำจิ้มก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
- เตรียมหม้อเทน้ำส้มสายชูลงไป ตามด้วยน้ำตาล และเกลือ คนให้น้ำตาลและเกลือละลาย จากนั้นพักให้เย็น
- เมื่อน้ำเชื่อมเย็นตัวลงแล้วให้ใส่ลงโถปั่น ตามด้วยผักชี รากผักชี กระเทียม พริกขี้หนูสวน ใบโหระพา ใบสะระแหน่ ปั่นให้ละเอียด
- จากนั้นเทน้ำจิ้มใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟคู่กับก๋วยเตี๋ยวลุยสวนหมูสับ
2. ปลาหมึกย่าง
วัตถุดิบ
- ปลาหมึกสด, ปลาหมึกไข่
- ผงขมิ้น
- น้ำเปล่า
- ซีอิ๊วดำหวาน
- น้ำตาลปี๊บ 500 กรัม
- เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำร้อน 3 1/2 ถ้วย
- น้ำมะนาว 4 ถ้วย
- พริกขี้หนู 200 กรัม
- กระเทียมไทย 200 กรัม
- ผักชี 200 กรัม
วิธีทำ
- ล้างปลาหมึก ควักไส้ ดึงหมึก และลอกหนังดำ ๆ ออกให้สะอาด บั้งตัวปลาหมึกให้สวยงาม หรือหั่นเป็นชิ้นแล้วเสียบไม้ เตรียมไว้
- ทำน้ำหมักปลาหมึก โดยผสมผงขมิ้น น้ำเปล่า และซีอิ๊วดำหวานเข้าด้วยกัน
- ใส่ปลาหมึกลงไปหมักจนได้สีที่ต้องการ หรือหมักข้ามคืน โดยนำปลาหมึกใส่ถุงพลาสติกแล้วมัดปากถุงแช่ในถังน้ำแข็ง แล้วเอาน้ำแข็งโป๊ะทับไว้ข้างบนให้ท่วม เก็บได้นาน 3 วัน
- นำปลาหมึกไปย่างจนสุก เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ด
วิธีทำน้ำจิ้มซีฟู้ด
- ใส่น้ำตาลปี๊บลงในอ่างผสม ตามด้วยเกลือและน้ำร้อน คนให้เข้ากันจนให้น้ำตาลปี๊บละลายเป็นน้ำ จากนั้นเติมน้ำมะนาวลงไปคนให้เข้ากัน
- เทส่วนผสมน้ำที่ผสมไว้ลงในเครื่องปั่น ตามด้วยพริกขี้หนู กระเทียม และผักชี ปั่นให้เข้ากันตามความละเอียดที่ต้องการ ตักใส่ขวดโหลแก้ว หรือภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด
3. ทะเลดองซอสเกาหลี
วัตถุดิบ
- น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง หรือ 16 ช้อนโต๊ะ
- โชยุ ซีอิ๊วเกาหลี หรือ ซีอิ๊วญี่ปุ่น (soy sauce) 1 ถ้วยตวง หรือ 16 ช้อนโต๊ะ
- มิริน 2 ช้อนโต๊ะ (ไม่ใส่ก็ได้)
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ
- พริกสด กระเทียม ต้นหอม งาขาว ใส่ตามชอบ
วิธีทำ
- ตั้งหม้อ (ขนาดเล็ก) เปิดแก๊สใช้ไฟกลางใส่โชยุ และน้ำเปล่าลงไป
- ตามด้วยน้ำปลา มิริน และน้ำตาลทราย จากนั้นต้มจนซอสเดือด ยกหม้อลงจากเตา
- พักให้น้ำดองเย็นเท่าอุณหภูมิห้อง ใส่พริก กระเทียม ต้นหอม ตามชอบ พร้อมนำไปดองกับอาหารทะเลสด
TIP น้ำดองที่ต้มไว้แล้วสามารถนำใส่ขวด เก็บในตู้เย็นได้ 2 สัปดาห์ (โดยยังไม่ผสมกระเทียม พริก ต้นหอม)
4. คอร์นด็อกชีส
วัตถุดิบ
- ยีสต์แห้ง / dry yeast
- น้ำอุ่น / Warm water
- น้ำตาล / Sugar
- เกลือ / Salt
- แป้งขนมปัง / Bread Flour
- ไส้กรอก / Sausage
- มอสซาเรลล่าชีส / mozzarella cheese
- น้ำตาลทรายละเอียด / sugar (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
วิธีทำ
- นำยีสต์ และน้ำตาล ใส่ลงในน้ำอุ่น จากนั้นคนให้เข้ากัน
- นำแป้งขนมปัง และเกลือมาผสมกัน จากนั้นจึงเอามาผสมกับส่วนผสมของยีสต์และน้ำอุ่น
- ใช้ช้อนคนให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน แต่อย่าเพิ่งนวด
- พักแป้งไว้ในอุณหภูมิห้อง โดยใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำหมาด มาคลุมด้านหน้าไว้ พักแป้งจนแป้งโดว์ฟูและมีขนาดเพิ่มขึ้นประมาณ 1 เท่าตัว
- หั่นไส้เกรอก และมอสซาเรลล่าชีส เป็นขนาดตามต้องการ แล้วนำมาเสียบไม้
- ตั้งกระทะใส่น้ำมัน รอจนน้ำมันร้อน (อุณหภูมิประมาณ 170 องศาเซลเซียส)
- นำไส้กรอกและชีสที่เสียบไม้ไว้ ลงมาชุบกับแป้งโดว์ ค่อยๆ หมุนจนแป้งเคลือบรอบชิ้นไส้กรอกจนหมด (ตามคลิป)
- จากนั้นนำมาชุบเกล็ดขนมปัง หรือเฟร้นช์ฟรายส์ตามชอบ แล้วนำลงไปทอดในน้ำมันที่ตั้งกระทะไว้
- คอยพลิกฮอทดอกเรื่อยๆ ทอดจนมีสีเหลืองทอง นำขึ้นจากกระทะมาสะเด็ดน้ำมัน
- นำไปชุบน้ำตาล และราดซอสตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ
5. พริกทอด
วัตถุดิบ
- พริกแห้ง 50 กรัม
- งาขาว 3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
- แป้งทอดกรอบ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ผงปรุงรสวิงซ์แซ่บ 2 ช้อนชา
- พริกหม่าล่า 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- นำเมล็ดพริกและไส้ออกทั้งหมด
- ตั้งน้ำให้เดือด แล้วนำพริกลงไปต้ม ใส่เกลือลงไปพอประมาณ ใช้เวลาต้ม 15 นาที ให้พริกสุกพองนิ่ม ตักพริกพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
- ใส่งาขาว แป้งทอดกรอบ แล้วเขย่าคลุกเคล้าให้ทั่วพริก แล้วพักไว้
- ตั้งกระทะ ให้น้ำมันร้อน นำพริกลงไปทอดให้กรอบ แล้วตักขึ้นไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
- ปรุงรสด้วยผงวิงซ์แซ่บ หรือพริกหม่าล่า คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- ใส่จานตักเสิร์ฟ
6. เมนูทาโกะยากิ
วัตถุดิบ
- แป้งเค้ก 100 กรัม
- เกลือ ¼ ช้อนชา
- น้ำสต็อกดาชิ 200 กรัม
- นมข้นจืด 100 กรัม
- โชยุ 1 ช้อนชา
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- หมึกยักษ์หั่นชิ้นพอคำ 100 กรัม
- วัตถุดิบสำหรับจัดเสิร์ฟ
- ปลาแห้งป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- ขิงดองสับ 12 กรัม
- กะหล่ำปลีสับ 70 กรัม
- ต้นหอมซอย 20 กรัม
- ซอสโอโคโนมิยากิ สำหรับเสิร์ฟ
- มายองเนส สำหรับเสิร์ฟ
- ปลาโออบแห้ง สำหรับเสิร์ฟ
- สาหร่าย สำหรับเสิร์ฟ
- พริกป่น สำหรับเสิร์ฟ
วิธีทำ
- เทแป้งเค้กลงในชามผสม ไข่ไก่ เกลือ ปรุงรสด้วยโชยุ นมข้นจืด และใส่น้ำสต็อกดาชิทีละครึ่ง คนให้เข้ากันจนหมดแล้วพักแป้งไว้อย่างน้อย 30 นาที ก่อนนำมาหยอดในกระทะ
- เปิดไฟเตาทาโกะยากิให้ร้อน โดยใช้แปรงทาน้ำมันให้ทั่วๆ จากนั้นใส่แป้งให้เกือบเต็มหลุม
- ใส่กะหล่ำปลีสับ ต้นหอมซอย ขิงดองสับ และเติมแป้งซ้ำจนกว่าจะได้ลูกกลมๆ
- ใส่ปลาหมึกยักษ์ แล้วพลิกตัวแป้งให้กลมและเก็บส่วนที่ติดอยู่ตามขอบให้หมด เมื่อแป้งสุกแล้วจัดเสิร์ฟได้เลย
- จัดเสิร์ฟทาโกะยากิใส่จานให้สวยงาม ราดด้วยซอสโอโคโนมิยากิ มายองเนส โรยด้วยปลาโออบแห้ง สาหร่าย และพริกป่น
7. ไก่ทอดวิงซ์แซ่บ
วัตถุดิบ
- ผงมะนาว
- น้ำตาลไอซิ่ง 15 กรัม
- ข้าวคั่ว 23 กรัม
- พริกป่น 4 กรัม
- พริกปาปริกา 3 กรัม
- ปีกไก่ 960 กรั
- น้ำเย็น 240 มิลลิลิตร
- น้ำมันพืช 1,000 กรัม
- แป้งทอดกรอบ
- ผงปรุงรส
วิธีทำ
- เตรียมผงวิงซ์แซ่บโดยผสมผงปรุงรส และผงมะนาวเข้ากับน้ำตาลไอซิ่ง ข้าวคั่ว พริกป่น และพริกปาปริก้า คนให้เข้ากัน และสามารถเพิ่มพริกได้ตามชอบ
- จากนั้นมาเตรียมทอดไก่กันต่อ โดยผสมแป้งทอดกรอบกับน้ำเย็น คนให้เข้ากัน
- นำปีกไก่ไปคลุกกับแป้งทอดกรอบให้ทั่วชิ้น จากนั้นนำไก่มาคลุกกับแป้งแห้งอีกครั้ง
- ตั้งเตา ใส่น้ำมัน แล้วทอดไก่ให้สุก เหลืองกรอบ แล้วตักขึ้นพักได้เลย
- โรยผงวิงซ์แซ่บบนไก่ทอด เขย่าให้เข้ากันเป็นอันเสร็จพร้อมขายสร้างรายได้
TIP : ทอดไก่ให้กรอบนานโดยใช้น้ำเย็นจัดผสมแป้งตอนชุบทอด และควรนำไก่ลงไปทอดตอนน้ำมันร้อน
8. ชีสบอล
วัตถุดิบ
- มันฝรั่ง 500 กรัม
- ไข่แดง 1 ฟอง
- เนย 3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
- พริกไทย 1 ช้อนชา
- มอสซาเรลล่าชนิดขูดเส้น 1 ถ้วยตวง
- แป้งอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง
- ไข่สำหรับคลุก 2 ฟอง
- เกล็ดขนมปัง 1 ถ้วยตวง
- น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำ
- ตั้งหม้อ ใส่น้ำเปล่าแล้วเปิดไฟ รอให้น้ำเดือดแล้วใส่มันฝรั่งลงไป ต้มให้สุกแล้วตักขึ้น
- บดให้มันฝรั่งละเอียด ปรุงรสด้วย เนย ไข่แดง เกลือ และพริกไทย คลุกเคล้าให้เข้ากัน เตรียมไว้ นำมันบดที่ปรุงรสแล้วมาห่อมอสซาเรลล่าชนิดขูดเส้นแล้วนำไปแช่เย็น 10 นาทีให้เซตตัว
- หลังจากนั้นนำมาคลุกแป้ง ไข่ และเกล็ดขนมปังเตรียมไว้
- ตั้งกระทะใส่น้ำมัน แล้วเปิดไฟ รอให้น้ำมันร้อนแล้วนำชีสบอลลงทอดให้สวยงาม ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน จัดวางใส่จานพร้อมจัดเสิร์ฟ
9. เกี๊ยวทอดรวมมิตร
วัตถุดิบ
- แผ่นแป้งเกี๊ยว 150 กรัม
- ปูอัด 6 ชิ้น
- ไส้กรอก 5 ชิ้น
- ลูกชิ้นหมู 80 กรัม
- หมูยอ 80 กรัม
- น้ำจิ้มไก่สำหรับราด
วิธีทำ
- หั่นปูอัด ไส้กรอก หมูยอ เตรียมไว้ จากนั้นนำมาห่อปูอัด ไส้กรอก หมูยอ และลูกชิ้นหมู เป็นรูปทรงต่าง ๆ
- ตั้งกระทะใส่น้ำมัน รอจนน้ำมันร้อน แล้วปรับเป็นไฟกลาง ใส่เกี๊ยวที่ห่อไว้ลงไปทอด คอยคนไม่ให้เกี๊ยวไหม้ด้านใดด้านหนึ่ง เมื่อเกี๊ยวเหลืองกรอบได้ที่แล้วตักขึ้นพักไว้
- นำเกี๊ยวที่ทอดแล้วใส่ภาชนะสำหรับเสิร์ฟ ราดด้วยน้ำจิ้มไก่เท่านี้ก็พร้อมรับประทาน
10. ข้าวยำไก่แซ่บ
วัตถุดิบ
- สะโพกไก่ (เลาะกระดูกออก) 400 กรัม
- แป้งทอดกรอบ ½ ถ้วยตวง
- เกลือ 1 ช้อนชา
- ซีอี๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ
- ผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- ใบสะระแหน่ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- ทำความสะอาดสะโพกไก่ จากนั้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ แล้วมาทำการหมักกับซีอิ๊วขาว เกลือ และน้ำมันพืช จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน พักทิ้งไว้เป็นเวลา 30 นาทีค่ะ
- นำไก่ที่หมักไว้จนได้ที่แล้ว มาผสมแป้งทอดกรอบกับน้ำเปล่า (น้ำเย็นจัด) คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- ตั้งกระทะโดยใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไปให้พอท่วมชิ้นไก่นะคะ รอจนน้ำมันร้อน แล้วนำไก่ที่ชุบแป้งแล้วลงทอดเลยค่ะ รอให้ด้านในสุก ด้านนอกเป็นสีเหลืองกรอบทั้งสองด้าน นำขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน และลดความร้อนลงค่ะ
- เมื่อไก่ทอดเย็นตัวลงแล้ว นำมาหั่นเป็นชิ้นพอคำก่อนนำไปคลุกเคล้ากับน้ำยำค่ะ
- นำน้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว และน้ำปลาคนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย จากนั้นใส่ข้าวคั่วและพริกป่นลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วชิมรสตามชอบค่ะ
- เมื่อได้น้ำยำแล้วใส่หอมแดงซอย ผักชีซอย ต้นหอมซอย ผักชีฝรั่งซอย และไก่ที่หั่นเตรียมไว้ลงตามไปค่ะ คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน – ใส่ใบสะระแหน่ เป็นขั้นตอนสุดท้ายค่ะ
- ตักยำไก่แซ่บนำขึ้นใส่จานที่เตรียมข้าวสวยร้อน ๆ ไว้แล้ว เสิร์ฟคู่กับแตงกวา ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่
11. ข้าวโพดคลุกเนย
วัตถุดิบ
- ข้าวโพดแกะเมล็ด 2 ฝัก
- เนยเค็ม 2 ช้อนชา
- น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
- นมข้นหวานสำหรับใส่ตอนท้ายตามชอบ
วิธีทำ
- แกะข้าวโพดหวานออกเป็นเมล็ด ๆ แนะนำให้ใช้วิธีแกะออกจากฝัก ไม่ใช่วิธีฝาน เพราะจะทำให้ข้าวโพดขาดไม่เป็นเมล็ด
- ต้มน้ำให้ร้อน นำข้าวโพดที่แกะแล้วใส่ลงไปในหม้อ ต้มจนข้าวโพดลอยขึ้นเหนือน้ำ เป็นอันว่าข้าวโพดสุกแล้ว
- ตักข้าวโพดใส่ชามเตรียมรอคลุก ตักเนยเค็มใส่ข้าวโพด เติมน้ำตาลทรายลงไป คลุกจนทุกอย่างเข้ากัน (การคลุกทั้งหมด ข้าวโพดต้องมีความร้อนอยู่เสมอ เพื่อให้ส่วนผสมทุกอย่างละลาย) ตักขึ้นใส่ภาชนะเสิร์ฟ บีบนมข้นหวานเพื่อเพิ่มความเข้มข้นหอมมัน
12. ขนมโตเกียว
วัตถุดิบ
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- น้ำตาลป่น 80 กรัม
- นมสด 100 กรัม
- น้ำปูนใสหรือน้ำสะอาด 80 กรัม
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- แป้งอเนกประสงค์ 140 กรัม
- แป้งข้าวเจ้าหรือแป้งมันสำปะหลัง 30 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- น้ำมัน หรือ เนยละลาย 15 กรัม
- ไข่นกกระทา ตามชอบ
- ไส้กรอก ตามชอบ
- หมูสับลวก ตามชอบ
- ต้นหอมซอย ตามชอบ
- ซอสปรุงรสฝาเหลือง ตามชอบ
- ซอสมะเขือเทศ ตามชอบ
- ซอสพริก ตามชอบ
- ปูอัด ตามชอบ
- ซอสพิซซ่า ตามชอบ
- ชีสขูด ตามชอบ
- เนยละลายสำหรับย่างแผ่นแป้ง
วิธีทำ
- นำไข่ตีกับน้ำตาลให้ละลายเข้ากันดี จากนั้นร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ ลงไปแล้วผสมให้เข้ากันจนเหนียวข้น ขั้นตอนนี้สำคัญเพราะจะทำให้แป้งเหนียวนุ่ม
- จากนั้นจึงใส่น้ำปูนใสหรือน้ำเปล่าลงไปผสมต่อจนเข้ากัน ใส่นมแล้วคนให้เข้ากัน หรือกรองด้วยกระชอนเพื่อความเนียนละเอียดของแป้ง
- ทาเนยบางๆ ที่กระทะ ให้ร้อนจนพอดีแล้วจึงใส่แป้งลงไป เกลี่ยให้หนาหรือบางก็ได้ตามที่เราชอบ พอแป้งใกล้สุก ใส่ไส้ตามชอบเช่น ไส้พิซซ่าที่ใส่ซอสมะเขือเทศเข้มข้น ปูอัด และชีส
- ค่อย ๆ ม้วนเป็นรูปทรงกระบอก จัดเสิร์ฟ
13. ขนมปังปิ้งไส้นมสด
วัตถุดิบ
- ขนมปังกะโหลก 12 ชิ้น
- ครีมนมสด 150 กรัม
- นมสด 150 กรัม
- ไข่แดง 2 ฟอง
- น้ำตาลทราย 100 กรัม
- แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
- เนยจืดละลาย 120 กรัม
- เนยจืด (สำหรับใส่ไส้) 20 กรัม
วิธีทำ
- ละลายแป้งข้าวโพดด้วยน้ำเปล่า และพักไว้
- ใส่ไข่แดงลงไปในชามผสม ตามด้วยน้ำตาลทราย จากนั้นตีให้ขึ้นฟูด้วยตะกร้อมือจนเป็นสีเหลืองนวล ประมาณ 5 นาที
- ใส่นมสด แป้งข้าวโพดที่ละลายเตรียมไว้ จากนั้นคนให้เข้ากัน นำไปตุ๋นบนหม้อที่ตั้งน้ำเดือดไว้ คนไปเรื่อย ๆ จนหนืด จากนั้นใส่เนยจืด (สำหรับใส่ไส้) ลงไป และคนจนเนยจืดละลาย พักไว้
- ทาเนยบนขนมปังกะโหลก จากนั้นนำไปปิ้งไฟเบาจนเหลืองกรอบ
- นำไส้นมสดที่เตรียมไว้ บีบลงไปในขนมปังปิ้ง เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้วจ้า
14. เครปกรอบ
วัตถุดิบ
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- น้ำตาล 100 กรัม
- กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 200 กรัม
- น้ำมันพืช 50 มิลลิลิตร
- เนยละลาย 50 มิลลิลิตร
- น้ำสะอาด 100 มิลลิลิตร
- นม 100 มิลลิลิตร
- เกลือ 1 ช้อนชา
- กล้วยหอม ตามชอบ
- ครีมช็อกโกแลต ตามชอบ
วิธีทำ
- ตีไข่กับน้ำตาลให้ขึ้นฟู (จนสีไข่ขาวขึ้น) ใส่แป้งสาลีเอนกประสงค์ เกลือค่อย ๆ ตะล่อมให้เข้ากัน จากนั้นใส่เนยละลาย น้ำมันพืช นม และน้ำคนให้เข้ากัน พักแป้งในตู้เย็นประมาณ 30 นาที
- นำแป้งที่ผสมไว้ วนแป้งในกระทะร้อนไฟอ่อนรอแป้งสุกทาครีมช็อกโกแลต จากนั้นตามด้วยกล้วยหอมตามชอบ
- รอให้แป้งสุกแล้วพับครึ่ง ให้ได้ทรงสามเหลี่ยม จากนั้นก็ฟินกับ “เครปกรอบ” เมนูของว่างโฮมเมดได้เลย
15. ขนมปังกรอบ เนยหนึบ
วัตถุดิบ
- แผ่นขนมปัง
- เนยสดจืด 180 กรัม
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
- น้ำตาลไอซิ่ง 160 กรัม (ชอบหวานเพิ่มได้ )
- ไข่แดง 1 ฟอง
- นมข้นหวาน 40 กรัม
- นมผง 100 กรัม
- แป้งอเนกประสงค์ 20 กรัม
วิธีทำ
- นำขนมปังแถวมาหั่นครึ่ง และหั่นให้บางลง จากนั้นนำเข้าเตาอบด้วยไฟบนล่าง เปิดพัดลม 150 องศา เป็นเวลา 5 นาที จากนั้นพักให้เย็น
- ทำเนยหนึบ โดยการตีเนยสดเย็นให้มีความอ่อนตัวลง ใส่น้ำตาลไอซึ่ง แล้วตีให้เนียนเข้ากัน
- ปาดอ่างให้เรียบร้อย แล้วเทไข่แดง และนมข้นหวานลงไป ตีให้เข้ากันอีกครั้ง
- จากนั้นลดความเร็วในการตี ใส่นมผง เกลือ และแป้งลงไป
- พอใส่แป้งจนหมดแล้ว ให้เพิ่มเป็นความเร็วกลาง ตีต่อเป็นเวลา 1-2 นาที เป็นอันเสร็จ
- นำไปทาบนหน้าขนมปังแบบไม่หนาและไม่บางจนเกินไป (ในส่วนของรสมันม่วง ทำเหมือนกันทุกอย่าง)
- นำเข้าเตาอบด้วยอุณหภูมิ 150 องศา เป็นเวลา 15 นาที
- พักให้เย็น จัดใส่ถุงหรือกล่อง เป็นอันเสร็จ
อยากขายอาหารออนไลน์ต้องใส่ใจอะไรบ้าง?
ช่องทางการขายอาหารออนไลน์และการจัดส่ง ต้องสะดวกและรวดเร็ว สำหรับช่องทางการขายอาหารออนไลน์ แบบแรก คือเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้จัดส่ง
คุณต้องเตรียมช่องทางการสื่อสารกับลูกค้า ไม่ว่าจะทางโทรศัพท์ Facebook Instagram หรือเว็บไซต์ ซึ่งควรมีพนักงานประจำตำแหน่งคอยแสตนบายรับออเดอร์และตอบคำถามของลูกค้าตลอดเวลา และควรมีพนักงานส่งอาหารเป็นของตัวเอง ช่องทางการขายรูปแบบนี้เหมาะสำหรับร้านค้าที่ลูกค้ายังไม่เยอะ รับออเดอร์แต่ละวันไม่มาก หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องเป็นร้านอาหารที่มีเงินทุนพอสมควร เพราะต้องใช้เงินลงทุนและจัดการทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมด ไม่เช่นนั้นอาจรับออเดอร์ไม่ครบ ขาดตกบกพร่อง ส่งอาหารช้า จะทำให้ลูกค้าพากันส่ายหน้าหนีได้
อีกไอเดียขายอาหารเดลิเวอรี่อีกรูปแบบหนึ่งคือ แบบหนึ่งคือ การนำร้านอาหารเข้าร่วมกับแอป Delivery Grab food ข้อดีของการเข้าร่วม คือ คุณไม่จำเป็นต้องโปรโมทร้านด้วยตัวเอง ไม่ต้องรับออเดอร์ลูกค้าและจัดส่งของด้วยตัวเอง เพราะบริษัทเดลิเวอรีจะทำหน้าที่รับออเดอร์และจัดส่งให้เสร็จสรรพ ซึ่งช่องทางนี้ก็นับเป็นช่องทางที่ลูกค้าส่วนใหญ่ใช้สั่งอาหารออนไลน์กันอีกด้วยค่ะ
-
เพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเข้าถึงด้วยการโปรโมท
ใช่แล้วค่ะ ธุรกิจจะเติบโตได้ ต้องอาศัยการโปรโมทที่ชัดเจน และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งการโปรโมทธุรกิจอาหารก็ไม่ได้แตกต่างจากธูรกิจทั่วไปสักเท่าไหร่ แต่ความยากจะอยู่ตรงที่ จะทำยังไงให้ลูกค้าเชื่อว่าของเราดี ของเรารสชาติอร่อย หรือแตกต่างจะร้านทั่วไปที่เค้าสามารถเดินออกไปซื้อเองได้ใกล้บ้าน ซึ่งช่องทางการโปรโมทควรจะมีทั้งแบบออนไลน์ และออฟไลน์
-
Facebook
จัดเป็นช่องทางหลักสำหรับการโปรโมทร้าน รับลูกค้าใหม่ เอาไว้ลงคอนเทนต์เกี่ยวกับสินค้า ลงภาพสินค้า รวมไปถึงโปรโมทโปรโมชั่นต่างๆ และยังสามารถลงโฆษณาได้อีกด้วย
-
Instagram
ช่องทางนี้ส่วนใหญ่เป็นนักช็อปกระเป๋าหนักค่ะ อาจต้องใช้รูปภาพที่สวยเว่อร์จริงๆ เพื่อดึงดูด อย่างพวกร้านเค้ก หรือร้านขนมแบบนี้จะขายดี เพราะภาพถ่ายออกมาสวย และแน่นอนว่าตอนนี้ไอจีก็สามารถลงโฆษณาได้แล้วเหมือนกัน
-
รูปแบบบรรจุภัณฑ์และภาพถ่ายอาหาร
หน้าตาของอาหารสำคัญไม่แพ้กับรสชาติ ยิ่งการขายอาหารผ่านออนไลน์ รูปภาพอาหารที่ใช้โปรโมทยิ่งต้องถ่ายให้ดูน่ากิน เพื่อดึงดูดใจและทำให้ลูกค้าสะดุดตา อีกหนึ่งอย่างที่ต้องให้ความสำคัญ คือบรรจุภัณฑ์ ต้องดูดี ออกแบบให้สวย สะอาด อย่าลืมติดโลโก้ร้าน และแพ็คไปอย่างมิดชิด อาหารจะได้ไม่หกเลอะเทอะก่อนไปถึงมือลูกค้า และอย่าลืมนึกถึงดีเทลเล็กๆ น้อย อย่างถ้วยใส่น้ำจิ้ม ช้อน ส้อม หรือตะเกียบ เพื่ออำนวยความสะดวก เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ที่ใช้บริการเดลิเวอรี ก็ต้องการความสะดวกสบายนั่นเองค่ะ
ทั้งหมดนี้คือไอเดียทำอาหารขายออนไลน์ที่เริ่มต้นได้ง่ายๆ ไม่มีสกิลทำอาหารก็สามารถฝึกฝนได้จากโลกออนไลน์ เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้คุณสามารถ ขายอาหารออนไลน์ ได้ง่าย สะดวก และมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นอีกด้วยนั่นเอง นอกจากไอเดียทำอาหารออนขายไลน์แล้ว หากสนใจขายอาหารออนไลน์ไม่มีหน้าร้านก็สามารถสมัคร GrabMerchant หรืออยากดูรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ https://www.grab.com/th/merchant/ แล้วไปลุยสร้างธุรกิจขายของออนไลน์กันเลย