Grab ได้รวบรวมเมนูอาหาร เมนูทำขาย สร้างอาชีพ สร้างรายได้ มาให้เพื่อน ๆได้ลองเลือกกันดู รับรองว่าขายดิบขายดี สำหรับใครที่กำลังมองหาเมนูดี ๆ ขายกับ 50 สูตร เมนูทำขาย ขายง่ายกำไรดี บอกเลยว่าแต่ละเมนู Grab เราได้คัดสรรมาให้แล้ว เน้นอร่อย ทำง่ายๆ ขายคล่อง แถมยังเป็นเมนูที่ขายดี ฮิตติดเทรน มาให้เพื่อน ๆได้ไปลองทำตามกันดูได้เลย
-
ยำไก่แซ่บ
วัตถุดิบ
- ไก่หั่นเต๋า 250 กรัม
- เกลือ 1 ช้อนชา
- ผงกระเทียม 1 ช้อนชา
- แป้งทอดกรอบ
- โซดา แช่เย็น
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- มะนาว 2-3 ลูก
- น้ำตาล 1 ช้อนชา
- พริก 2 ช้อนโต๊ะ
- ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดง 2 หัว
- ต้นหอม 20 กรัม
วิธีทำ
- นำไก่หั่นเต๋าหมักกับผงกระเทียม เกลือ คลุกเคล้าให้เข้ากัน พักไว้ 10 นาที
- นำไก่ที่หมักไว้ชุบแป้งทอดกรอบ ชุบโซดา และชุบแป้งทอดกรอกอีกครั้ง
- ตั้งน้ำมันให้ร้อน ใช้ไฟกลาง นำไก่ลงไปทอดจนสีเหลืองกรอบน่าทาน
- นำเครื่องปรุงน้ำยำใส่ลงชามผสม ตามด้วยไก่ทอด และผัก คลุกเคล้าให้เข้ากัน จัดใส่ถ้วยให้สวยงามหากไม่รู้ว่าจะขายของกินอะไรดี เมนูนี้ก็ถือว่าทำได้ไม่ยาก
-
ข้าวโพดอบเนย
วัตถุดิบ
- ข้าวโพดต้มสุก แกะออกจากฝัก
- เนยเค็ม
- น้ำตาล
- นมข้นจืด
วิธีทำ
- ใส่เนย น้ำตาล นมข้นจืด คนจนน้ำตาลละลาย
- ใส่ข้าวโพดลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟ อาจจะเพิ่มท็อปปิ้งอื่น ๆ เพื่อเพิ่มกำไรได้ตามความเหมาะสม
-
เกี๊ยวทอด
วัตถุดิบ
- หมูสับติดมัน 400 กรัม
- กระเทียมไทย 20 กลีบ
- รากผักชี 4 ราก
- พริกไทยป่น ¼ ช้อนชา
- เกลือ 1 หยิบมือ
- น้ำตาล 2 ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
- ต้นหอมซอย 4 ต้น (เฉพาะใบ)
- น้ำมันพืช สำหรับทอด
- แผ่นเกี๊ยว 90 แผ่น
- ไข่ขาว 1 ฟอง
วิธีทำ
- ตำ 3 เกลอให้ละเอียด นำไปหมักหมูพร้อมปรุงรส คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- ตักหมูที่หมักเตรียมไว้ใส่แป้งเกี๊ยว ปริมาณพอเหมาะ ทาด้วยไข่ขาว พับเป็น 3 เหลี่ยม
- ตั้งกระทะ นำเกี๊ยวลงทอด จนเหลืองกรอบ ตักขึ้น ใส่ในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มไก่
-
น้ำพริกกากหมู
วัตถุดิบ
- มันหมู (หั่นเส้น) 2+1/2 กิโลกรัม
- หอมแดง
- กระเทียม
- น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- ตั้งกระทะ นำมันหมูใส่กระทะ เจียวจนเหลืองกรอบ พักให้สะเด็ดน้ำมันพักไว้
- ซอยหอมแดง และกระเทียม นำไปทอดจนกรอบ พักไว้รอให้เย็น
- เตรียมชามผสมใส่น้ำตาลทราย เกลือ พริกป่นคลุกให้เข้ากัน
- นำกากหมูที่เจียวไว้ มาคลุกเคล้าเครื่องปรุง และหอมเจียว กระเทียมเจียวให้เข้ากัน
- ตักใส่กระปุก ปิดฝาให้มิดชิด หรือซีลสูญญากาศเก็บไว้นานได้เช่นกัน
-
กล้วยทอด
วัตถุดิบ
- กล้วยน้ำว้าห่าม ๆ
- แป้งทอดกรอบ 300 กรัม
- แป้งข้าวเจ้า 150 กรัม
- แป้งอเนกประสงค์ 100 กรัม
- น้ำตาลทราย 400 กรัม
- งาขาว 100 กรัม
- ผงฟู 2 ช้อนชา
- เกลือป่น 2 ช้อนชา
- กากมะพร้าว 250 กรัม
- น้ำปูนใส 500 กรัม
- กะทิ 150 กรัม
วิธีทำ
- เตรียมแป้งทอดโดยการผสมวัตถุดิบทั้งหมดในชามผสม โดยเริ่มจากของแห้ง ตามด้วยของเหลว คลุกเคล้าให้เป็นเนื้อเดียวกัน
- หั่นกล้วยเป็น 3 ชิ้น และชุปลงในแป้งที่เตรียมไว้
- ตั้งน้ำมันให้ท่วม รอน้ำมันร้อนจึงทยอยนำกล้วยที่ชุปแป้งแล้วลงไปทอดทีละชิ้น ด้วยไฟอ่อน เพื่อไม่ให้ติดกันเป็นแพและไหม้เร็วเกินไป
- ทอดจนสีเหลืองทอง พักให้สะเด็ดน้ำมันก็พร้อมขายทันที อาจปรับเป็นพวกมัน ฟักทอง เพื่อเพิ่มความหลากลายของเมนูนี้ให้ดึงดูดลูกค้ามากขึ้น
-
ลูกชิ้นชุปแป้งทอด
วัตถุดิบ
- แป้งทอดกรอบ 150 กรัม
- แป้งข้าวเจ้า 150 กรัม
- น้ำปูนใส 200 มิลลิลิตร (ml.)
- น้ำเปล่าเย็นจัด 200 มิลลิลิตร (ml.)
- ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
- สีผสมอาหารสีส้ม 1 ช้อนชา
- ลูกชิ้นปลา / หมู / ไก่ / เนื้อ
- ไม้เสียบลูกชิ้น
วัตถุดิบน้ำจิ้มลูกชิ้น
- มะขามเปียก 100 กรัม (ไม่ชอบเปรี้ยวลดเหลือ 80 กรัม)
- น้ำอุ่น 500 มิลลิลิตร (ml.)
- น้ำตาลมะพร้าว 500 กรัม
- น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 2 ช้อนชา
- พริกแดง 100 กรัม
- กระเทียมไทย 30 กรัม
- รากผักชี 5 ราก
วิธีทำ
- ซับลูกชิ้นให้แห้ง ก่อนนำลงไปทอด จะทำให้แป้งติดลูกชิ้นได้ดี และช่วยให้แป้งกรอบนานขึ้น
- เสียบลูกชิ้นกับไม้เสียบลูกชิ้น ประมาณ 3 ลูก ต่อ 1 ไม้
- ผสมแป้งทอดกรอบ แป้งข้าวเจ้า น้ำปูนใส และน้ำเย็นจัด แล้วคนผสมให้แป้งเข้ากัน
- นำลูกชิ้นคลุกแป้งนวล (แป้งข้าวเจ้า) ก่อนนำไปชุบแป้งชุบทอด จะทำให้น้ำแป้งติดดีขึ้น และกรอบมากขึ้น
- ตั้งน้ำมันให้ร้อน นำลูกชิ้นชุบแป้งทอด แล้วทอดด้วยไฟกลางจนแป้งสีเข้มขึ้นและแข็งกรอบ (ลูกชิ้นจะดันแป้งแตก ไม่ต้องตกใจนะคะ) พอใกล้ได้ที่ให้เร่งไฟเพื่อไล่น้ำมัน
- ตักลูกชิ้นขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมัน พร้อมเสิร์ฟ
- นำพริกแดงจินดา กระเทียมไทย และรากผักชี มาปั่นรวมกันให้ละเอียด
- ละลายน้ำมะขามเปียก โดยการเทน้ำอุ่นลงไปทีละนิด ค่อยๆ ขยำมะขามเปียกและน้ำให้เข้ากัน แล้วนำมากรองเอาแต่น้ำ
- ตั้งหม้อ เปิดแก๊ส ใส่น้ำมะขามเปียก แล้วใส่น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลทราย และเกลือป่น ใช้ไฟอ่อนเครี่ยวไปเรื่อยๆ จนน้ำตาลละลายหมด
- ใส่พริก กระเทียม และรากผักชีที่ปั่นตามลงไป ปริมาณความเป็ดตามชอบ เคี่ยวจนน้ำจิ้มเดือดเป็นฟองละเอียด
- ปิดแก๊ส จากนั้นใส่ผักชีซอยลงไป แล้วคนให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟคู่ลูกชิ้นทอด
-
ผัดกะเพรา
วัตถุดิบ
- เนื้อสัตว์ตามที่ชอบ 400 กรัม
- กระเทียม 2 หัว
- กระเทียม 2 หัว
- ใบกะเพรา 50 กรัม
- พริกแดงจินดา 12 เม็ด
- พริกแห้งแดงจินดา 6 เม็ด
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรสฝาเขียว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอย 3 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ้วดำหวาน 1/2 ช้อนโต๊ะ (ไม่ชอบกลิ่นตัดออกได้)
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- หั่นหมูหรือเนื้อสัตว์ตามที่ออกเป็นชิ้นๆ ห้ละเอียดตามความต้องการ แล้วพักไว้
- โขลกพริกแห้งให้ละเอียด แล้วใส่พริกแดงจินดา และกระเทียมโขลกตามลงไปให้ละเอียด (สามารถปั่นแทนได้ ตามความชอบ)
- ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันพืชลงไปพอประมาณ ผัดพริกและกระเทียมให้มีกลิ่นหอม
- เมื่อพริกกระเทียมหอมได้ที่แล้ว ใส่เนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้ลงไปผัดให้กระจาย ไม่เกาะกันเป็นก้อน ผัดให้เข้ากับพริกกระเทียม ให้เนื้อสัตว์สุกในระดับนึง
- ปรุงรสด้วย น้ำมันหอย น้ำปลา ซอสปรุงรส และซีอิ๊วดำหวาน น้ำตาล เล็กน้อย เร่งไฟผัดให้เข้ากัน ชิมรสชาติ แล้วใส่ใบกะเพราลงไปผัดให้เข้ากัน ปิดเตา ตักเสิร์ฟ
-
ข้าวไข่เจียว
วัตถุดิบ
- ไข่ 2 ฟอง
- น้ำปลา 1/2 ช้อนชา
- พริกไทย 1/4 ช้อนชา
- น้ำ 1/2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- ตอกไข่ไก่ใส่ชามผสม ปรุงรสชาติด้วยน้ำปลา พริกไทย ตามด้วยน้ำเปล่า ตีให้เข้ากัน
- ตั้งกระทะ ให้ร้อน ใส่น้ำมันพอประมาณ วอมกระทะด้วยไฟกลาง พอน้ำมันเริ่มร้อน ให้ใส่ไข่ลงไป
- ทอดได้สักพัก ค่อยๆ ขยับให้ไข่สุกทั่วกัน พอสีเริ่มออกเหลืองอ่อน ให้กลับอีกด้าน ทอดให้สุกเท่ากัน เป็นอันเสร็จ
-
กุ้งทอดเกลือ
วัตถุดิบ
- กุ้ง 500 กรัม
- กระเทียม 20 กรัม
- เนยสด 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- พริกไทย 1/4 ช้อนชา
วิธีทำ
- นำกุ้งมาล้างทำความสะอาด แล้วเปลือก ผ่าหลังเอาเส้นดำออก
- นำกระเทียมมาสับพอหยาบ ๆ
- ตั้งกระทะใส่น้ำมัน รอจนน้ำมันร้อนจัด
- นำกุ้งลงทอดให้กุ้งสุกประมาณ 60-80 % อย่าทอดนานเกินไปจนเนื้อกุ้งกระด้าง
- นำกุ้งขึ้นมาพักไว้ แล้วเทน้ำมันออกเล็กน้อย
- เปิดเตา ใส่เนยลงไป ตามด้วยกระเทียมสับ
- ใส่กุ้งที่พักไว้ลงไปทอดต่อ เร่งไฟแรงแล้วปรุงรสชาติด้วยซอสหอยนางรม เกลือ ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย และพริกไทยป่น
- คลุกเคล้าให้ส่วนผสมเข้ากันดี จากนั้นตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
-
ทอดมันกุ้ง
วัตถุดิบ
- เนื้อกุ้ง 500 กรัม
- แป้งทอดกรอบ 4 ช้อนโต๊ะ
- เกล็ดขนมปัง
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- พริกไทย 1/8 ช้อนชา
วิธีทำ
- นำกุ้งมาล้างทำความสะอาด แล้วปอกเปลือกออกให้หมด
- นำกุ้งมาสับให้ละเอียด โดยการใช้มีดอีโต้ตบกุ้งก่อน
- นำเนื้อกุ้งไปใส่ชามผสม ปรุงรสด้วยเกลือป่น พริกไทย และแป้งทอดกรอบ
- ใช้มือนวดเนื้อกุ้งและเครื่องปรุงเข้ากันดี
- นวดกุ้งสักพักใหญ่ จนเนื้อกุ้งเหนียว เด้ง เนื้อเนียนผสมกับแป้งดี
- เตรียมเกล็ดขนมปังโดยเทลงใส่ถาด
- แป้งชิ้นทอดมันตามชอบ แล้วนำไปคลุกเกล็ดขนมปัง
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน ใช้ไฟกลางรอจนน้ำมันร้อน
- ใส่ทอดมันกุ้งลงไปทอดจนได้สีเหลืองทอง ตักขึ้นมาพักสะเด็ดน้ำมัน พร้อมทาน
-
กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา
วัตถุดิบ
- กะหล่ำปลี 2 ขีด
- กระเทียม 15 กลีบ
- น้ำปลา, น้ำมันหอย อย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช ปริมาณสำหรับทอดกระเทียมเจียวพอท่วม
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- แป้งทอดกรอบ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- แกะกะหล่ำปลีเป็นใบๆ แล้วฉีกออกขนาดพอประมาณ ล้างน้ำให้สะอาดแช่เย็นทิ้งไว้
- นำกระเทียมมาสับคลุกกับเกลือป่น และแป้งทอดกรอบเล็กน้อย จากนั้นนำไปเจียวให้เหลืองกรอบ พักไว้
- ตั้งน้ำมันในกระทะให้ร้อน นำกะหล่ำปลีลงไปผัดปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมันหอยเล็กน้อย
- พอผักสลบเล็กน้อยตักใส่จานโรยด้วยกระเทียมเจียว หากใครที่ไม่ชอบกระเทียมเจียวไม่จำเป็นต้องใส่ก็อร่อยเช่นเดียวกันนะคะ
-
กุ้งอบวุ้นเส้น
วัตถุดิบ
- กุ้งก้ามกราม 1 กิโลกรัม
- หมูสามชั้น 150 กรัม
- วุ้นเส้น 200 กรัม
- ต้นหอม 3 ต้น
- ขึ้นฉ่าย 3 ต้น
- ขิงแก่ 1 แง่ง
- กระเทียม 1 หัว
- รากผักชี 4 ราก
- ชวงเจีย (พริกหอม) 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร
- ซอสหอยนางรม 4 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ้วขาว 2+1/2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ้วดำ(หวาน) 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันงา 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- เหล้าจีน 2 ช้อนโต๊ะ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ตามชอบ)
วิธีทำ
- เริ่มจากผสมน้ำซอสสำหรับอบวุ้นเส้น โดยใส่ น้ำเปล่า ซอสหอยนางรม ซีอิ้วขาว ซีอิ้วดำหวาน น้ำมันงา และน้ำตาลทราย แล้วคนส่วนผสมให้เข้ากัน และน้ำตาลทรายละลายหมด (ไม่ต้องต้ม)
- ใส่กุ้งลงไปแช่ในน้ำซอสที่ผสมไว้ แล้วพักไว้
- นำกระทะมาตั้งไฟ ใช้ไฟกลางแล้วใส่หมูสามชั้นลงไป คั่วหมูสามชั้นไปเรื่อยๆ เพื่อรีดน้ำมันออกมา
- พอน้ำมันออกมาพอสมควร ให้ใส่กระเทียม รากผักชี และขิงแก่ลงไปในกระทะ แล้วผัดให้หอม
- ใส่ชวงเจียตาลงไป (ถ้าไม่มีใส่พริกไทยเม็ดแทนได้) ผัดจนหอม
- เมื่อเครื่องเทศหอมดีแล้ว ให้ใส่น้ำซอสที่ผสมไว้ลงไปในกระทะ รอน้ำเดือดลองชิมรสชาติดู (เน้นให้รสจัด เค็มนำ)
- ใส่กุ้งตามลงไป (ถ้าใช้กุ้งตัวเล็กให้ใส่กุ้งพร้อมวุ้นเส้นได้เลย) พอกุ้งเปลี่ยนสีใส่วุ้นเส้นที่แช่น้ำไว้แล้ว ลงไปในกระทะ คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่พริกไทยป่นลงไป ปริมาณตามชอบ
- คอยคนจนวุ้นเส้นสุกดี และดูดน้ำซอสเข้าไปหมด
- ปิดเตา โรยผักตกแต่ง พร้อมรับประทาน
-
ซุปเปอร์ตีนไก่ตุ๋นยาจีน
วัตถุดิบ
- ตีนไก่ 1 กิโลกรัม
- ชุดเครื่องตุ๋นจีน 1 ชุด
- รากผักชี 5 ราก
- พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียม 5 กลีบ
- เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ
- ผักชีฝรั่ง (ผักชีใบเลื่อย)
- ผักชีไทย
- พริกขี้หนู
- มะนาว
- น้ำปลา
วิธีทำ
- ล้างตีนไก่ให้สะอาดลวกน้ำร้อนพักไว้สะเด็ดน้ำ
- ตั้งน้ำให้เดือด นำรากผักชี กระเทียม พริกไทยที่ตำรวมกันใส่ไปในหม้อ ตามด้วยเครื่องตุ๋นยาจีน
- ใส่เกลือป่น น้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วดำ ซอสถั่วเหลือง ลงไป ตามด้วยตีนไก่ ต้มจนเปื่อยและเข้าเนื้อ
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว พริกขี้หนูปรุงรสตามชอบ โรยหน้าด้วยผักชีทานร้อน ๆ
-
หมูทอดน้ำปลา
วัตถุดิบ
- สันคอหมู 1 กิโล
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรส 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ
- พริกไทย 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- นำเนื้อหมูไปล้างให้สะอาด แล้วนำหมูไปแช่ในช่องแช่แข็งสักพัก แล้วลองกดดูให้ข้างในเริ่มเป็นแกนแข็งๆ จึงนำหมูมาหั่น จะทำให้เราหั่นหมูได้ง่าย
- หั่นหมูเป็นชิ้นหนาประมาณ 1 นิ้ว เหมือนการหั่นสเต๊ก เพื่อให้ทอดแล้วเนื้อหมูยังมีความนุ่มอยู่
- พักหมูไว้ให้ละลายและเนื้อนิ่มดี
- นำเครื่องปรุง ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส น้ำปลา น้ำมันหอย น้ำตาลทราย และพริกไทย มาผสมให้เข้ากันในโถผสม คนจนน้ำตาลละลายดี
- นำเนื้อหมูมาหมักกับเครื่องปรุง นวดให้เครื่องปรุงเข้าเนื้อ แล้วพักเนื้อหมูทิ้งไว้สักพัก ไม่ต้องนำเข้าตู้เย็น
- ทำน้ำจิ้มแจ่ว ระหว่างรอเนื้อหมักหมูให้เข้าเนื้อดี
- นำเนื้อหมูใส่หม้อทอดไร้น้ำมัน ตั้งอุณหภูมิ 180 องศา ใช้เวลา 8 นาที
- ครบ 8 นาทีแรก ให้นำเนื้อหมูมาพลิกด้าน แล้วนำเข้าหม้อทอดไร้น้ำมันต่ออีก 8 นาที
- เมื่อครบเวลา นำเนื้อหมูออกมาหั่น สังเกตว่าเนื้อหมูจะมีความเกรียมดี แต่ยังมีความชุ่มฉ่ำอยู่ พร้อมรับทานคู่น้ำจิ้มแจ่ว
15.ปูผัดผงกะหรี่
วัตถุดิบ
- ปูม้าสด 500 กรัม
- น้ำพริกเผา 3 ช้อนโต๊ะ
- ผงกะหรี่ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 2 ช้อนชา
- เหล้าจีน 2 ช้อนชา
- ซอสปรุงรส 2 ช้อนชา
- น้ำปลา 2 ช้อนชา
- กระเทียมสับหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกสด 15 เม็ด
- พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- นมข้นจืด 1 ถ้วย
- น้ำ 1/2 ถ้วย
- หอมหัวใหญ่ 1 ถ้วย
- ขึ้นฉ่าย 1 ถ้วย
- ต้นหอม 1/ 2 ถ้วย
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
วิธีทำ
- เริ่มจากการเตรียมชามผสม สำหรับทำน้ำปรุง ตอกไข่ใส่ลงไป ตีไข่ให้แตก ใส่น้ำพริกเผา น้ำตาลทราย ซอสปรุงรส น้ำมันหอย น้ำปลา นมข้นจืด เหล้าจีน คนส่วนผสมให้เข้ากันดี พักไว้ก่อน
- ตั้งกระทะ เปิดไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไป เมื่อน้ำมันร้อนดีแล้ว ใส่กระเทียมลงไปผัดให้พอให้มีกลิ่นหอม แล้วใส่ผงกะหรี่ตามลงไปผัดเพื่อให้มีกลิ่นหอม ตามด้วยพริกไทยป่นผัดต่อสักพัก
- เมื่อเริ่มมีกลิ่นหอมดีแล้ว ใส่น้ำปรุงที่เตรียมไว้ลงไป แต่ยังไม่ต้องคน ให้ใส่ปูม้า หอมใหญ่ พริกแดงซอย แล้วปิดฝา รอให้เดือดหรือให้ไข่ข้นขึ้นก่อนค่อยคน
- คนให้เข้ากัน ผัดไปมาจนปูเปลี่ยนเป็นสีส้ม แสดงว่าปูสุกแล้ว ชิมรสปรุงให้ได้ตามชอบ แล้วจึงปิดไฟใส่ต้นหอมซอย ใบขึ้นฉ่ายลงไป ผัดให้พอผักสลด ตักใส่จานเสิร์ฟ
16.ขาหมูพะโล้สูตรโบราณ
วัตถุดิบ
- ขาหมู 2 กิโลกรัม
- ไข่เป็ด 10 ฟอง
- ผักกาดดอง(เปรี้ยว) 200 กรัม
- รากผักชี 20 กรัม
- กระเทียม 40 กรัม
- พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 2,000 กรัม
- ซอสถั่วเหลือง คิคโคแมน (โชยุญี่ปุ่น) 15 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 8 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- ตั้งเตาต้มน้ำให้เดือด แล้วใส่เกลือลงไป จากนั้นเอาไข่เป็ดลงไปต้มให้สุก
- เทคนิคทำให้ไข่แดงอยู่ตรงกลางใบ คือ ช่วงแรกของการต้มไข่ให้หมั่นคนไข่ให้ทั่ว
- นำรากผักชี กระเทียม และพริกไทย มาโขลกรวมกันให้ละเอียด
- ตั้งกระทะให้ท่วม รอจนน้ำมันพอร้อน นำขาหมูที่ล้างทำความสะอาดและพักให้สะเด็ดน้ำลงไปทอด
- ทอดพอให้หนังหมูและเนื้อส่วนนอกตึงและสุกขึ้นมา ปิดเตาแล้วนำขาหมูมาพักไว้
- เตรียมหม้อตุ๋นขาหมู ใส่น้ำมันพืช และสามเกลอที่โขลกไว้ลงไปผัดให้หอม จากนั้นตักขึ้นมาพักไว้
- ใส่น้ำตาลปี๊บ และน้ำเปล่าเล็กน้อยลงในหม้อ ผัดด้วยไฟกลางจนน้ำตาลละลาย และสีเข้มขึ้นจนคล้าย คาราเมล
- ใส่ซอสถั่วเหลือง ลงไปผัดให้เข้ากับน้ำตาลปี๊บ เร่งไฟเป็นไฟแรง
- ใส่สามเกลอตามลงไปผัดให้เข้ากัน
- ใส่ขาหมูที่ทอดไว้ลงไป ตามด้วยผักกาดดองที่ล้างทำความสะอาดแล้ว
- จากนั้นใส่น้ำเปล่าลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากัน แล้วรอให้น้ำกลับมาเดือดอีกครั้ง
- ลดไปลงเหลือไฟกลาง ใส่ไข่ต้มลงไป ใช้ไฟกลางค่อนอ่อน ตุ๋นขาหมูต่อไปอีกประมาณ 3.30 ชั่วโมง
- ชิมรสชาติให้ได้รสชาติที่ต้องการ พร้อมเสิร์ฟ
วัตถุดิบน้ำจิ้มขาหมูพะโล้สูตรโบราณ
- กระเทียม 20 กรัม
- พริกแดงจินดา 10 กรัม
- น้ำส้มสายชู 6 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- นำส่วนผสมทั้งหมดมาปั่นหรือโขลกรวมกัน
- ปั่นให้ส่วนผสมละเอียดเข้ากันดี
- ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ
-
ไข่น้ำสไตล์ญี่ปุ่น
วัตถุดิบ
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- สาหร่ายวากาเมะ 20 กรัม
- เต้าหู้อ่อน 100 กรัม
- ต้นหอมญี่ปุ่น 30 กรัม
- น้ำ 1,200 มิลลิลิตร
- คิคโคแมน โยเซนาเบะซุป 5 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- ตอกไข่ไก่ใส่ชามผสม รอไว้ ตีไข่ให้แตกเข้ากันดี พักไว้
- ซอยต้มหอมญี่ปุ่นเตรียมรอไว้ ตามด้วยเต้าหู้อ่อน หั่นตามความต้องการ
- เปิดเตา ตั้งน้ำให้เดือด พอน้ำเริ่มเดือด ใส่ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น
- พอน้ำเดือด คนน้ำซุปให้วนๆ จากนั้นเทไข่ไก่ลงไป อย่าพึ่งกวน รอจนไข่สุกดีก่อน
- ตามด้วยสาหร่ายวากาเมะ และเต้าหู้อ่อน
- รอจนเดือด แล้วจึงใส่ต้นหอมญี่ปุ่นลงไปตามชอบ รอจนเดือดดีอีกครั้ง เป็นอันเสร็จ
-
ผัดซีอิ๊ว
วัตถุดิบ
- เส้นใหญ่ 100 กรัม
- เนื้อหมู 1/3 ถ้วย
- คะน้า 3 ต้น
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- กระเทียมสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ (สำหรับผัด)
- ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยป่น ตามต้องการ
วิธีทำ
- หั่นคะน้า และหั่นหมูเป็นชิ้นพอดีคำ หมักหมูด้วยพริกไทย และซีอิ๊วขาวเล็กน้อย หมักทิ้งไว้
- ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย ใส่กระเทียมสับลงไปเจียวจนสุกเหลือง และมีกลิ่นหอม จากนั้นให้เร่งไฟขึ้น และใส่เนื้อหมูลงไปผัดจนสุก
- ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วดำ น้ำมันหอย และซีอิ๊วขาว ผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน แล้วจึงใส่เส้นใหญ่ลงไปผัด
- แบ่งส่วนผสมทั้งหมดไปไว้ข้างหนึ่งของกระทะ แล้วตอกไข่ลงไป ใช้ตะหลิวตีไข่เบา ๆ ให้พอเข้ากัน พอเห็นว่าไข่เริ่มสุก ก็ยกเส้นขึ้นมากลบไข่ ใส่คะน้าแล้วผัดให้สุกทั่วกัน
- ตักใส่จานเสิร์ฟ อาจจะเสิร์ฟคู่กับ พริกน้ำส้ม พริกป่น น้ำปลา น้ำตาล ให้ปรุงเพิ่มกันตามใจชอบ เพียงเท่านี้เราก็มีเมนูทำง่าย ขายคล่องกันแล้ว
-
ยำตะไคร้กุ้ง
วัตถุดิบ
- กุ้ง 500 กรัม
- ตะไคร้ (ซอย) 30 กรัม
- หอมแดง 50 กรัม
- พริกจินดาเขียว,แดง 15 กรัม
- พริกขี้หนู 2 กรัม
- น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 1/3 ช้อนโต๊ะ
- สะระแหน่
- ถั่วลิสงทอด
วิธีทำ
- หั่นโคนตะไคร้แข็งๆ ออกไป แล้วซอยให้บางๆ
- ซอยหอมแดง พริกจินดา หั่นมะนาว และคั้นน้ำมะนาว เตรียมไว้
- ทำน้ำยำ ผสมน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลปี๊บเข้าด้วยกัน คนผสมให้เข้ากันจนน้ำตาลละลายดี จากนั้นชิมรสชาติปรับรสให้ได้ที่ต้องการ แล้วพักไว้
- แกะเปลือกกุ้ง แล้วนำมาล้างทำความสะอาด แช่น้ำแข็งไว้ ผ่าหลังกุ้งเพื่อเอาเส้นดำออก
- ตั้งหม้อน้ำให้เดือด แล้วนำกุ้งลงไปลวกในน้ำที่เดือดจัดได้ที่ ลวกกุ้งแค่พอสุกแล้วตักขึ้นพักไว้
- ใส่เครื่องยำลงไปในภาชนะที่จะใช้ยำ ใส่ตะไคร้ หอมแดง พริกจินดา กุ้ง ตามด้วยน้ำยำที่ผสมไว้ และถั่วลิสงทอด คนผสมให้เข้ากันดี แล้วตักใส่จาน
- ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่ และโรยด้วยถั่วลิสงทอด พร้อมเสิร์ฟ
-
สเต็กหมูพริกไทยดำ
วัตถุดิบ
- สันคอหมู 700 กรัม
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- นมข้นจืด 5 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันมะกอก 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยดำ 1 ช้อนชา
- สับปะรด
- น้ำสต๊อก 150 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ้วญี่ปุ่น 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยดำ 1/2 ช้อนชา
- แป้งสาลี 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำ 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- เริ่มหมักหมู ใส่เกลือ นมข้นจืด น้ำมันพืช พริกไทยดำ สับปะรด ลงในชามผสม คนให้เข้ากันดี
- นำหมูมาคลุกเคล้ากับซอสให้เข้ากันดี ปิดด้วยพลาสติกแรป นำไปแช่ตู้เย็น 4-6 ชั่วโมง
- เปิดเตาตั้งกระทะ โดยที่ยังไม่ต้องใส่น้ำมัน รอจนกระทะร้อนได้ที่ เทน้ำมันลงไปเล็กน้อย
- นำสเต็กหมูลงไปทอด ด้วยไฟกลางค่อนไปอ่อน ปล่อยทิ้งไว้จนหมูออกขาว พลิกกลับด้าน จากนั้นนำฝาปิด และอบไปเรื่อยๆ ประมาณ 3-4 นาที
- เปิดฝา ทอดต่ออีกสักพักเพื่อไล่ความชื้นจนสุกดีอีกประมาณ 10 นาที นำขึ้นมาพักไว้
- ทำซอสเกรวี่ โดยใช้กระทะเดิมที่ทอดหมู ไม่ต้องล้างออก เติมน้ำสต็อกหมูลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย ซีอิ๊วญี่ปุ่น ซอสมะเขือเทศ เปิดเตา
- รอจนเดือด นำแป้งสาลีผสมน้ำเตรียมไว้ ชิมรสชาติให้ได้ตามชอบ ใส่พริกไทยดำลงไป
- ใส่แป้งสาลีลงไป ค่อยๆ ทยอยใส่ ตามชอบ เคี่ยวไปเรื่อยๆ ให้แป้งสุกดี
- นำเสิร์ฟพร้อมสลัดผักสด เฟรนช์ฟรายส์ทอดตามชอบ
21.ข้าวเหนียวมะม่วง
วัตถุดิบ
- ข้าวเหนียวขาว 500 กรัม
- สารส้มโขลกละเอียด 1 ช้อนชา
- น้ำ สำหรับแช่ข้าวเหนียว
- ใบเตยฉีกแล้วมัดประมาณ 10 ใบ
- กะทิกล่อง 350 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 200 กรัม
- เกลือป่น 2 ช้อนชา
วิธีทำ
- ซาวข้าวเหนียวจนสะอาด ใส่สารส้มลงไป เติมน้ำเปล่าลงไปจนท่วมข้าวเหนียว จากนั้นคนผสมจนเข้ากัน แช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมง
- ล้างข้าวเหนียวที่แช่กับสารส้มไว้จนสะอาด สะเด็ดน้ำแล้วพักไว้สักครู่
- เทข้าวเหนียวลงในหวดนึ่งข้าว ใส่ใบเตยลงไป นำหวดไปวางลงในน้ำเดือด นึ่งประมาณ 20 นาที จนข้าวเหนียวสุก
- ผสมกะทิกับน้ำตาลทรายและเกลือป่นในอ่างผสม คนจนเข้ากัน เทข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้วลงไป คนผสมจนเข้ากัน พักทิ้งไว้ 30 นาที จนข้าวเหนียวระอุ
- เสิร์ฟคู่กับมะม่วงสุก ราดน้ำกะทิหอม ๆ น่ารับประทานมาก
-
ไก่ทอดวิงซ์แซ่บ
วัตถุดิบ
- ผงปรุงครบรสไก่ 44 กรัม
- ผงมะนาว 13 กรัม
- น้ำตาลไอซิ่ง 15 กรัม
- ข้าวคั่ว 23 กรัม
- พริกป่น 4 กรัม
- พริกปาปริกา 3 กรัม
- ปีกไก่ 960 กรัม (ประมาณ 20 ปีก)
- แป้งทอดกรอบ 200 กรัม
- น้ำเย็นจัด 240 มิลลิลิตร
- น้ำมันพืชสำหรับทอด
วิธีทำ
- เตรียมผงวิงซ์แซ่บโดยผสมผงปรุงไก่ ผงมะนาว น้ำตาลไอซิ่ง ข้าวคั่ว พริกป่น และพริกปาปริก้า คนให้เข้ากัน
- จากนั้นมาเตรียมผสมแป้งทอดกรอบกับน้ำเย็น คนให้เข้ากัน
- นำปีกไก่ไปคลุกกับแป้งทอดกรอบให้ทั่วชิ้น จากนั้นนำไก่มาคลุกกับแป้งแห้งอีกครั้ง
- ตั้งเตา ใส่น้ำมัน แล้วทอดไก่ให้สุก เหลืองกรอบ แล้วตักขึ้นพักได้เลย
- คลุกผงวิงซ์แซ่บบนไก่ทอด ให้เข้ากันเป็นอันเสร็จพร้อมขายสร้างรายได้
-
โจ๊กหมู
วัตถุดิบ
- ข้าวสารหอมมะลิ 180 กรัม
- ข้าวสารข้าวเหนียว 100 กรัม
- น้ำเปล่า 2000 มิลลิลิตร ( ถ้าโจ๊กข้นไปสามารถเพิ่มได้)
- รากผักชี 2-3 ราก
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนตวง
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนตวง
- ซุปก้อนรสหมู 1 ก้อน
- หมูเด้ง ตามชอบ
- ไข่ลวก
- ขิงซอย
- ต้นหอมซอย
- พริกไทยป่น
- กระเทียมเจียว
- ซอสแม๊กกี้
วิธีทำ
- นำข้าวสารทั้งสองชนิด บดรวมกันให้ละเอียด
- ตั้งน้ำ เปิดไฟ ใส่ซุปก้อน รากผักชี น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว เกลือป่น รอให้น้ำเดือด
- เมื่อน้ำเดือดแล้ว ตักหมูเด้งแบ่งใส่ลงไปเป็นชิ้นพอดีคำ ต้มให้สุกจากนั้นตักขึ้นมาผักไว้ พร้อมรากผักชี
- จากนั้นใช้หม้อใบเดิม ปรับเป็นไฟอ่อน ค่อยๆ เทข้าวที่บดแล้วลงไป และอีกมือนึงต้องคนตลอดเวลา ต้มไปเรื่อยๆ จนกระทั่งข้าวเหนียวข้นดี ใช้เวลาประมาณ 7 นาที
- ตักใส่ชาม พร้อมเสิร์ฟคู่กับหมูเด้ง ไข่ลวก ขิงซอย ต้นหอม กระเทียมเจียว พริกไทยป่น ตามชอบ เป็นอันเสร็จ
-
ขนมกุยช่าย
วัตถุดิบ
- แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม
- แป้งมันสำปะหลัง 250 กรัม
- แป้งเท้ายายม่อม 30 กรัม
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือสมุทร 1 1/2 ช้อนชา
- น้ำสะอาด 2 1/2 ถ้วย
- กุยช่าย 800 กรัม
- เกลือสมุทร 1 1/4 ช้อนชา (ถ้าใช้เกลือป่นให้ลดปริมาณลงด้วยนะคะ)
- น้ำตาลทราย 2 1/2 ช้อนชา
- เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืชสำหรับทาถาดและสำหรับทอดกุยช่าย
วิธีทำ
- ล้างใบกุยช่ายแล้วหั่นเป็นท่อนสั้น ๆ จากนั้นนำไปคลุกเคล้ากับเกลือสมุทร น้ำตาลทราย เบกกิ้งโซดา และน้ำมันพืช พักไว้ 1 ชั่วโมง พอครบเวลาให้บีบคั้นน้ำใบกุยช่ายออกจนแห้ง
- ใส่แป้งมันสำปะหลัง แป้งเท้ายายม่อม แป้งข้าวเจ้า น้ำสะอาด เกลือสมุทร และน้ำตาลทราย ลงในอ่างผสม คนผสมให้เข้ากันแล้วนำไปกรองด้วยผ้าขาวบางตาห่าง ๆ
- จากนั้นเทส่วนผสมใส่กระทะ ยกขึ้นตั้งไฟอ่อน หมั่นคนและกวนให้ส่วนผสมเข้ากันพอข้นเหนียว แต่ไม่ต้องถึงขนาดให้สุกดีจนเป็นก้อนนะคะ (เคล็ดลับ : ถ้าแป้งสุกเกินไปจะเป็นก้อน กุยช่ายจะไม่สามารถผสมเข้าในเนื้อแป้งได้ เพราะแป้งเซตตัวไปซะแล้ว) จากนั้นปิดไฟ ยกลงจากเตา
- ใส่ใบกุยช่ายที่บีบน้ำจนแห้งแล้วลงไป คนให้แป้งและกุยช่ายเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
- เตรียมถาดสี่เหลี่ยม ทาน้ำมันพืชให้ทั่ว ตักส่วนผสมที่ทำใส่ลงไปเกลี่ยให้หน้าเรียบ หนาประมาณ 1 เซนติเมตร จากนั้นนำไปนึ่งบนน้ำเดือดด้วยไฟปานกลาง เวลาประมาณ 15 นาที หรือจนสุก ยกออกจากเตา พักให้เย็น
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป (ใช้ไฟไม่ต้องแรงนะคะ) พอน้ำมันร้อนก็ตัดขนมกุยช่ายเป็นชิ้นลงทอดให้กรอบทั้งสองด้าน
- ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน ตัดเป็นชิ้นขนาดพอคำ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มค่ะ
-
เมี่ยงเบคอนพันเห็ดเห็ดเข็มทอง
วัตถุดิบ
- เบคอน ½ กิโลกรัม
- เห็ดเข็มทอง ½ กิโลกรัม
- พริกขี้หนูสวน ½ ถ้วย
- กระเทียมไทย 10 กลีบ
- รากผักชี 3 ราก
- มะนาว 3 ลูก
- น้ำปลา ½ ถ้วย
- น้ำตาลปี๊บ ⅓ ถ้วย
- ถั่วตัด ⅓ ถ้วย อ่านต่อได้ที่
วิธีทำ
- นำเบคอนมาพันกับเห็ดเข็มทอง ใช้ไม้จิ้มฟันกลัดไว้ แล้วนำไปย่างให้สุกบนเตาย่าง โดยให้ไฟกลางเพื่อให้เห็ดมีความสุกที่ทั่วถึง
- ตำกระเทียม พริกขี้หนู ถัวตัด รากผักชี จนละเอียด ปรุงรสน้ำปลา น้ำตาลปี๊ป น้ำมะนาว ชิมรสตามชอบ
- จัดเสริฟใส่ถาดใหญ่ คู่กับน้ำจิ้มเมี่ยง และผักเคียงตามชอบ
-
เต้าหู้ทอด
วัตถุดิบ
- เต้าหู้ขาว/เหลืองชนิดแข็ง
- น้ำตาลทราย 60 กรัม
- น้ำตาลปี๊บ 60 กรัม
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- น้ำส้มสายชู 5 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ
- พริกสีแดง 1 เม็ด
- ถั่วลิสงคั่ว
วิธีทำ
- หั่นเต้าหู้เป็นเต๋าใหญ่พักไว้ ซับให้แห้ง
- ตั้งน้ำมันให้ร้อนใส่เต้าหู้ลงไปทอดโดยใช้ไฟกลางจนเต้าหู้เหลืองกรอบ
- ผสมน้ำตาล เกลือ น้ำส้มสายชู และน้ำเปล่าในหม้อ คนเข้าเข้ากัน นำไปตั้งไฟกลาง เคี่ยวจนละลายและเหนียวข้น พักให้เย็น
- ตักน้ำจิ้มใส่ถ้วย เติมพริกกับถั่วคั่วลงไป เสิร์ฟกับเต้าหู้ทอด
27.ข้าวเหนียวกล้วยปิ้ง
วัตถุดิบ
- ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 2 ถ้วยตวง
- น้ำเปล่า 2 ¼ ถ้วยตวง
- กะทิ 1 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย ¾ ถ้วยตวง
- เกลือ 1 ช้อนชา
- ใบเตย 3 ใบ
- กล้วยน้ำว้า 1 หวี
วิธีทำ
- นำข้าวเหนียวเขี้ยวงูแช่น้ำทิ้งไว้ 30 นาที แล้วนำไปหุงในหม้อที่รองผ้าขาวบางชุบน้ำให้สุก 15 นาที เตรียมไว้
- ตั้งหม้อเปิดไฟใส่กะทิ น้ำตาลทราย เกลือ และใบเตย คนให้น้ำตาลละลายดี ปิดไฟ แล้วใส่ข้าวเหนียวที่นึ่งเตรียมไว้ลงไป คลุกให้เข้ากัน ปิดฝาทิ้งไว้ 15 นาที
- เผาใบตอง เตรียมไว้ หลังจากนั้นปอกกล้วย และหั่นกล้วยครึ่งเตรียมไว้
- ตักข้าวเหนียวมูนใส่ใบตอง ตามด้วยกล้วย และข้าวเหนียวมูนอีกชั้นแล้วห่อใบตอง กลัดด้วยไม้กลัดไว้
- นำข้าวเหนียวกล้วยไปปิ้ง 10 นาทีทั้งสองด้านให้มีกลิ่นหอม พร้อมจัดเสิร์ฟ
-
เล้งแซ่บ
วัตถุดิบ
- น้ำสะอาด 4 ลิตร
- กระดูกเล้ง 2 กิโลกรัม
- น้ำกระเทียม 1/2 ถ้วย
- เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
- ซุปหมูก้อน 2 ก้อน
- รากผักชี 2-3 ต้น
- หอมใหญ่ 1 หัว
- น้ำตาลกรวด 20 กรัม
- น้ำปลา
- พริกขี้หนูสวน เม็ดเล็ก
- น้ำมะนาว
- ต้นหอมผักชี ผักชีฝรั่ง
วิธีทำ
- เริ่มจากการต้มน้ำซุป นำกระดูกหมูเล้ง หรือกระดูกซุป ล้างน้ำให้สะอาด ต้มน้ำทิ้ง 1 รอบ แล้วใส่น้ำต้มใหม่จนหมูสุก ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
- ใส่ซุปก้อน เกลือ รากผักชี น้ำกระเทียมดอง น้ำตาลกรวด หอมหัวใหญ่ แครอท ต้มอีกประมาณ 30 นาที ชิมน้ำซุป ปรุงให้ได้ตามชอบ
- ตักกระดูกเล้ง ใส่หม้อ ใส่ชามเตรียมไว้ก่อน ตักน้ำซุปใส่หม้อ แล้วปรุงน้ำซุป ใส่พริกขี้หนูสวนปั่นหยาบ ๆ ลงไป ความเผ็ดตามชอบ และปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาวตราราชารส โรยด้วยต้นหอมผักชี ผักชีฝรั่ง ได้ตามชอบ
-
ผัดผักบุ้งไฟแดง
วัตถุดิบ
- ผักบุ้งจีน 1 กำ
- กระเทียมปอกเปลือกทุบ 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกชี้ฟ้าทุบ 2 เม็ด
- เต้าเจี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับผัด)
วิธีทำ
- ตัดโคนผักบุ้งออก เด็ดเป็นท่อน นำไปแช่ในน้ำผสมด่างทับทิมทิ้งไว้สักครู่ จากนั้นล้างน้ำให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
- นำผักบุ้งใส่จาน ใส่พริก กระเทียม เต้าเจี้ยว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย และน้ำเปล่า ลงไป
- ตั้งกระทะใช้ไฟแรง ใส่น้ำมันพืชลงไป พอน้ำมันร้อนจัดเทผักบุ้งที่เตรียมไว้ลงไป ผัดเร็ว ๆ พอให้ผักบุ้งสลด ปิดเตา ตักใส่จานเสิร์ฟ
เอ็นข้อไก่ทอด
วัตถุดิบ
- เอ็นข้อไก่ 700 กรัม
- แป้งทอดกรอบ 4-5 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียม 7 กรัม
- ใบมะกรูด 10 กรัม
- น้ำปลา 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทย 1/2 ช้อนชา
- น้ำเปล่า 80-100 กรัม
วิธีทำ
- นำกระเทียมไปโขลกพอหยาบ ใส่ลงไปในเอ็นข้อไก่ ตามด้วยน้ำปลา พริกไทยป่นตามชอบ และแป้งทอดกรอบ และน้ำเปล่าเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- ได้ที่แล้ว เติมงาคั่วลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน บิดใบมะกรูดพักไว้
- ตั้งน้ำมันในกระทะให้ร้อนจัด เทน้ำมันให้ท่วม ใช้ไฟกลาง จากนั้นนำลงไปทอด กระจายให้ทั่วกระทะ
- รอสักพัก ใช้ตะหลิวเขี่ยเอ็นข้อไก่กระจายออกจากกัน ทอดไปเรื่อยๆ จนออกสีเหลืองได้ที่ ให้ใส่ใบมะกรูดลงไป เพิ่มความหอม ทอดต่ออีกเล็กน้อย เป็นอันเสร็จ
31.แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย
วัตถุดิบ
- เนื้อปลากรายขูด 500 กรัม
- มะเขือเปราะ 500 กรัม
- มะเขือพวง 100 กรัม
- กระชาย 30 กรัม
- พริกชี้ฟ้าแดง 30 กรัม
- ใบโหระพา 10 กรัม
- ใบมะกรูด 2 กรัม
- พริกแกงเขียวหวาน 100 กรัม
- หัวกะทิ 400 กรัม
- หางกะทิ 900 กรัม
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- นำน้ำเย็นจัดผสมเกลือ มานวดผสมกับเนื้อปลากรายขูด โดยทยอยใส่ทีละน้อย
- นวดปลากรายจะได้เนื้อเหนียวเท่าที่ต้องการ
- นำมะเขือเปรามาหั่นแล้วแชาลงในน้ำเปล่าที่ผสมเกลือไว้ เพื่อไม่ให้มะเขือดำ
- ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด ใส่ตะไคร้ใบมะกรูด แล้วนำปลากรายมาปั้นเป็นก้อนตามต้องการ
- เมื่อปลากรายสุกดี (ลอยขึ้นจากน้ำ) ให้ตักปลากรายขึ้นมาแช่ในน้ำเย็นจัด
- ตั้งกระทะ ใส่หัวกะทิส่วนแรก ผัดหัวกะทิด้วยไฟกลางจนเดือดและแตกมัน
- พอหัวกะทิแตกมันให้ใส่พริกแกงเขียวหวานลงไปผัดกับหัวกะทิจนหอม ถ้าแห้งเกินไปสามารถใส่หัวกะทิเพิ่มได้
- พอพริกแกงสุกหอมดีใส่หางกะทิลงไป แล้วคนผสมให้เข้ากัน จากนั้นเร่งไฟแรง
- ต้มจนน้ำกะทิกลับมาเดือดอีกครั้ง ให้ใส่ลูกชิ้นปลากรายลงไป แล้วใส่มะเขือเปราะ ต้มต่อจนแกงกลับมาเดือด พอน้ำแกงเดือดให้ปรุงรสชาติด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา คนให้น้ำตาลละลายดีแล้วชิมรสชาติ
- ใส่มะเขือพวง ตามด้วยพริกชี้ฟ้าแดง และใบมะกรูด คนให้เข้ากัน
- ใส่ใบโหระพา แล้วคนให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ
-
ไข่พะโล้
วัตถุดิบ
- ไข่ไก่ 6 ฟอง
- รากผักชี 4 ราก
- กระเทียม 5 กลีบ
- พริกไทย ½ ช้อนชา
- หมูสามชั้น 200 กรัม
- น้ำตาลปี๊บ ½ ถ้วย
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- โป๊ยกั๊ก 4 ดอก
- อบเชย 1-2 ชิ้น
- น้ำมันพืช สำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 3 ถ้วย
วิธีทำ
- ตั้งน้ำใส่เกลือนิดหน่อย ต้มไข่ด้วยไฟกลางประมาณ 10 นาที แล้วยกลงจากเตา เอาไข่ออกมาแช่น้ำให้เย็นแล้วปอกเปลือกแล้วพักไว้
- นำสามเกลอ (รากผักชี กระเทียม และพริกไทย) โขลกให้ละเอียด
- เมื่อโขลก 3 เกลอละเอียดแล้ว ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันลงไปนำสามเกลอลงไปผัดให้หอม
- เมื่อสามเกลอเริ่มหอมแล้วให้ใส่น้ำตาลปี๊บลงไปผัด และเคี่ยวจนน้ำตาลสีเข้มจัด เมื่อได้สีน้ำตาลเข้มจัดอย่างที่ต้องการใส่หมูสามชั้นลงไปผัดแค่พอสุก
- ใส่ไข่ต้มและน้ำเปล่า ลงไปตามด้วยโป๊ยกั๊กและอบเชย
- ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย พอน้ำซุปเดือดแล้วให้เบาไฟลงโดยใช้ไฟอ่อน
- ค่อยๆ เคี่ยวต่อไปประมาณ 1 ชั่วโมง น้ำซุปจึงจะเริ่มเข้าเนื้อ พร้อมเสิร์ฟ
-
ข้าวคลุกกะปิ
วัตถุดิบ
- ข้าวสวย 2,000 กรัม (2 กิโลกรัม)
- กะปิ 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียม 30 กรัม
- ไข่ม้วน
- กุนเชียง
- กุ้งแห้งทอด
- พริกทอด
- แตงกวา
- มะม่วงเปรี้ยว
- หอมแดง
- ถั่วฝักยาว
- พริกสด
- มะนาว
วิธีทำ
- ล้างทำความสะอาดและหั่นเครื่องเคียงผักสด มะม่วงเปรี้ยว แตงกวา ถั่วฝักยาว หอมแดง พริกสด มะนาว กุนเชียงเลือกใส่ได้ตามต้องการ
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน ตามด้วยใส่กระเทียม ที่โขลกหรือสับไว้ก็ได้ เจียวให้กระเทียมเริ่มหอมและเป็นสีเหลือง ให้ใส่กะปิตามลงไป แล้วผัดจนหอม จากนั้นใส่น้ำเปล่าลงไปพอประมาณ เพื่อละลายกะปิ
- ผัดจนน้ำเริ่มแห้งใส่ข้าวสวยลงไปในกระทะที่ผัดกะปิ แล้วคลุกให้ข้าวกับกะปิเข้ากัน ลองชิมรสชาติให้พอดี จากนั้นเปิดเตา ผัดให้ข้าวร้อนทั่วถึง
- ตักจัดแต่งจาน พร้อมเครื่องเคียงพร้อมรับประทาน
-
ก๋วยเตี๋ยวเป็ด
วัตถุดิบ
- น่องเป็ดติดเนื้อ 2 ชิ้น
- กระเทียม 6 กลีบ
- โป๊ยกั๊ก 3 ดอก
- อบเชย 2 ก้าน
- พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ
- รากผักชี หรือก้านผักชี 2 ช้อนโต๊ะ
- ผงพะโล้ 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วดำหวาน 3 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมดอง พร้อมน้ำกระเทียมดอง 2 ช้อนโต๊ะ
- ใบเตย 2-3 ใบ
- น้ำ 1/2 หม้อ (ประมาณ 5 ถ้วย)
- เส้นก๋วยเตี๋ยว
- กากหมูกระเทียมเจียว
- ตั้งฉ่าย
- น้ำส้มพริกดอง
- ต้นหอมกับผักชีสับหยาบ
- เครื่องปรุงตามชอบ
วิธีทำ
- นำกระเทียม โป๊ยกั๊ก อบเชย พริกไทยเม็ด และรากผักชีใส่ห่อผ้าขาวบาง มัดให้เรียบร้อย
- นำน้ำครึ่งหม้อใส่ผงพะโล้ ถ้าใครไม่ชอบกลิ่นพะโล้แรงมาก ให้ลดผงพะโล้เหลือ 1 ช้อนชา เติมซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และซีอิ๊วดำหวาน ใส่หัวกระเทียมดองทั้งหัวพร้อมน้ำกระเทียมดอง ใส่เครื่องที่ห่อไว้ลงไป มัดใบเตยใส่ลงไปเพิ่มความหอม
- ใส่น่องเป็ดลงไป ปิดฝา เปิดไฟกลางค่อนไปทางอ่อน ตุ๋นไปอีก 1 ชั่วโมง หรือจนเนื้อเป็ดเปื่อยจนเป็นที่พอใจก็ปิดเตา
- ลวกเส้นตามชอบใส่ชาม แล้วก็ลวกผักคะน้ากับถั่วงอกลงชาม ใส่กากหมูกระเทียมเจียว ตามด้วยตั้งฉ่ายนิดหน่อย เติมน้ำส้มพริกดอง
- ตักเป็ดขึ้นมาแล้วก็สับเป็นชิ้นตามชอบ โปะลงบนเส้นก๋วยเตี๋ยว ตักน้ำซุปลงชาม ใส่ต้นหอมกับผักชีสับหยาบ โรยพริกไทยป่น ปรุงรสตามชอบ
-
หมูกรอบ
วัตถุดิบ
- เนื้อหมูสามชั้น
- เกลือ 1 ช้อนชา
- น้ำส้มสายชู
- น้ำมัน สำหรับทอด
วิธีทำ
- นำหมูมาบั้งให้หนังหมูเป็นริ้ว ๆ ทาเกลือให้ทั่วแล้วพักไว้ จะทำให้เครื่องปรุงซึมเข้าไปในเนื้อง่าย และเวลาทอดออกมาจะกรอบฟู น่ารับประทาน
- นำด้านที่เป็นหนังหมูไปแช่น้ำส้มสายชู 20 นาที จะช่วยให้หนังหมูกรอบฟูเวลาทอด
- ใช้กระดาษซับก่อนนำไปทอดครั้งที่ 1 ให้พอสุกสีเหลืองทองสวยน่ากินทั้งชิ้น
- เสร็จแล้วนำไปแช่แข็งในช่องฟรีซ อย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง หรือแช่ค้างคืนไว้ยิ่งดี เพราะถ้ายิ่งหนังหมูแข็งเวลาทอดจะยิ่งกรอบฟูมาก ๆ สามารถเก็บไว้ได้นานในช่องฟรีซ เวลาจะกินก็แค่นำออกมาทอด
- นำหมูที่แช่ฟรีซไว้มาทอดครั้งที่ 2 นำส่วนหนังลงทอดในน้ำมันร้อน ใช้ไฟปานกลางจนหนังกรอบฟู แล้วก็ทอดให้เหลืองกรอบน่ากินทั้งชิ้น เพียงเท่านี้ก็ได้หมูกรอบข้างนอก นุ่มข้างใน
-
ขนมจีนน้ำเงี้ยว
วัตถุดิบ
- หมูบด 500 กรัม
- ซี่โครงอ่อน 500 กรัม
- เลือดไก่ 3 ก้อน
- มะเขือเทศสีดา 1 กิโลกรัม
- ดอกงิ้วตามชอบ
- ผักชีต้นหอม3กำ
- พริกแห้งทอด 20 เม็ด
- พริกน้ำเงี้ยว 500 กรัม
- กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาตามชอบ
- น้ำตาล
- กระเทียมเจียว
- ผักแกล้ม เช่น กะหล่ะปลีซอย, ถั่วงอก, ผักกาดดองซอย
วิธีทำ
- เริ่มเคี่ยวกระดูกอ่อนรอไว้ก่อนกว่าจะเปื่อยหั่นของเสร็จพอดี
- แช่ดอกงิ้วรอไว้ นานๆหน่อยสักชั่วโมงนึงเวลาต้มจะได้เปื่อยง่าย ๆ
- หั่นเลือดไก่ มะเขือเทศ เป็นเต๋าใหญ่
- นำพริกแกงมาผัดกับน้ำมัน ตามด้วยมะเขือเทศลงไปผัดให้เปื่อย
- นำไปเทใส่หม้อที่เคี่ยวกระดูกอ่อน ตามด้วยหมูบด และเลือดไก่
- ใส่กะปิลงไปเลย ใช้แทนถั่วเน่าไม่ชอบกลิ่นถั่วเน่า คนทุกอย่างให้ละลายเข้ากัน ปรุงรสตามชอบ ออกเค็มหวาน ปล่อยให้เดือด ลดไฟลงเคี่ยวไปเรื่อย ๆ
- ใส่ดอกงิ้วลงไป เคี่ยวจนเดือด ตักร้านบนขนมจีนเสิร์ฟร้อน ๆ
-
ขนมจีนน้ำยา
วัตถุดิบ
- ตะไคร้ 200 กรัม
- กระเทียม 30 กรัม
- หอมแดง 50 กรัม
- ข่า 60 กรัม
- กระชาย 400 กรัม
- พริกแห้ง 20 เม็ด
- เนื้อปลาตาเดียว 500 กรัม
- กะทิ 250 มิลลิลิตร
- น้ำเปล่า 4 ถ้วย
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 2 ช้อนชา
- ลูกชิ้นปลา 150 กรัม
- ผักกินแกล้ม (ถั่วงอก, โหระพา, ถั่วฝักยาว, ผักกาดดอง)
วิธีทำ
- ต้มน้ำให้เดือด ใส่ตะไคร้ กระเทียม หอมแดง ข่า กระชาย และ พริกแห้งลงไป ตามด้วยเนื้อปลา ต้มจนสุกกรองทุกอย่างออก และเก็บน้ำต้มไว้ด้วย
- นำผักและเนื้อปลาที่ต้ม มาโขลกให้ละเอียดจนกลายเป็นเครื่องแกง (ระวังเรื่องก้าง)
- ตั้งกระทะเทน้ำกะทิลงไปครึ่งหนึ่ง รอจนร้อนได้ที่ ให้นำเครื่องแกงลงไปผัดกับกะทิจนเข้ากันแล้ว ให้เติมกะทิส่วนที่เหลือลงไป ตามด้วยน้ำเปล่าเคี่ยวจนกะทิแตกมัน
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา เกลือ และตามด้วยใส่ลูกชิ้นปลาลงไป
- ตักน้ำยากะทิราดบนขนมจีน เสิร์ฟคู่กับผักแกล้ม
-
สปาเกตตี้ขี้เมา
วัตถุดิบ
- เส้นสปาเก็ตตี้ลวก 100 กรัม
- ปลาหมึก 1 ถ้วยตวง
- กุ้ง 1 ถ้วยตวง
- กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูตำ 2 ช้อนโต๊ะ
- กระชายซอย 1 กำมือ
- ใบมะกรูด 1 กำมือ
- ใบกะเพรา 1 กำมือ
- พริกไทยอ่อน 1 ถ้วยตวงตามชอบ
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- ตำกระเทียมกับพริกให้เข้ากัน แล้วพักไว้
- ลวกเส้นสปาเก็ตตี้เตรียมไว้ จากนั้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
- เทน้ำมันพืชลงไปในกระทะ ใส่พริกกระเทียมต่ำ ผัดจนหอม แล้วใส่กุ้งกับปลาหมึกลงไป ผัดจนสุก
- ใส่เส้นสปาเก็ตตี้ลวกลงไป จากนั้นปรุงรสด้วยเครื่องปรุงต่าง ๆ ชิมรสตามชอบ
- ใส่กระชายซอย ใบมะกรูด และใบกะเพรา จากนั้นผัดจนกลิ่นหอมของเครื่องเทศเหล่านี้ออกมา
- ปิดไฟ ตักเสิร์ฟได้เลย
-
หมึกย่าง
วัตถุดิบ
- น้ำเปล่า 2,000 กรัม
- ผงขมิ้น 2 ช้อนชา
- สีผสมอาหารสีเหลืองไข่แบบซอง ปลายช้อนชา
- ซีอิ้วดำ 2-3 ช้อนโตะ
- พริกจินดาแดง 60 กรัม
- พริกขี้หนูสวน 40 กรัม
- รากผักชี 15 กรัม
- กระเทียม 100 กรัม
- กระเทียมดอง 50 กรัม
- น้ำกระเทียมดอง 80 มิลลิลิตร
- น้ำมะนาวคั้นสด 180 มิลลิลิตร
- น้ำปลา 100 มิลลิลิตร
- เกลือ 1 ช้อนชา
- กระเทียมซอย 20 กรัม
- มะนาวหั่นเต๋า 1 ลูก
- ผักชีซอย ตามชอบ
วิธีทำ
- ทำน้ำหมักโดยนำน้ำเปล่าผสมกับ ผงขมิ้น สีผสมอาหารเล็กน้อย และซีอิ๊วดำเข้าด้วยกัน
- นำหมึกเสียบไม้ หมักกับน้ำมัน 5-10 นาที และนำไปย่าง
- ทำน้ำจิ้มโดยนำเครื่องปรุงทั้งหมดปั่นเข้าด้วยกัน ก็พร้อมเสิร์ฟคู่กับหมึกย่างร้อน ๆ แล้ว
-
พานาคอตต้า
วัตถุดิบ
- วิปปิ้งครีมสด 600 กรัม
- นมสด 600 กรัม
- น้ำตาลทราย 270 กรัม
- วานิลลา 1/2 ช้อนชา
- ผงเจลาติน (ผง) 36 กรัม
- น้ำเปล่า 180 กรัม
- สตรอว์เบอร์รี่แช่แข็ง 400 กรัม
วิธีทำ
- นำเจลาติน ค่อย ๆ โรย ใส่ลงไปในน้ำเปล่า คนให้เจลาตินละลาย พักไว้ประมาณ 5-10 นาที
- เมื่อครบเวลา ก่อนนำไปใช้ ให้นำเจลาติน เข้าไมโครเวฟ ประมาณ 20 วินาที ให้กลายเป็นของเหลวอีกรอบ และนำไปใช้งานได้
- ผสมนมสด วิปปิ้งครีมสด น้ำตาลทราย วานิลลา ลงไปต้ม ไฟอ่อน ค่อย ๆ คนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันพอมีไอร้อน ที่ลอยขึ้นมาได้ ปิดเตา
- จากนั้น ใส่เจลาตินที่เตรียมไว้ ตามลงไป คนให้เจลาตินเข้ากับครีมนม
- ก่อนหยอด พานาคอตต้า ลงพิมพ์ ขั้นตอนนี้ ให้กรองส่วนผสมที่ทำไว้ 1 รอบ เพื่อให้ได้เนื้อพานาคอตต้าที่เนียนนั่นเอง
- เตรียมพิมพ์สำหรับหยอดพานาคอตต้า จะใช้เป็นถ้วยเจลลี่ หรือถ้วยพุดดิ้งก็ได้ เทส่วนผสมชั้นแรก คือ ชั้นครีมนม ลงไปประมาณเกือบเต็มถ้วย จากนั้น นำไปแช่เย็น ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
- ทำซอสสตอเบอรี่ โดยนำสตอเบอรี่แช่แข็ง ใส่น้ำตาลทราย 120 กรัม ลงในหม้อ ตั้งไฟใช้ไฟกลาง ค่อย ๆ บี้และเคี่ยวจนงวด เวลาประมาณ 5-10 นาที ปิดเตา พักซอสให้เย็น เตรียมไว้
- นำพานาคอตต้า ที่แช่แข็งไว้ ออกมา นำซอสสตอเบอรี่ที่ทำไว้ ราดไว้ด้านบน Topping ตามชอบ
-
ขนมถ้วย
วัตถุดิบ
- แป้งข้าวเจ้า 200 กรัม
- แป้งท้าวยายม่อม 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลมะพร้าว 400 กรัม
- น้ำ 900 กรัม
- หัวกะทิ 400 กรัม
- แป้งข้าวเจ้า 40 กรัม
- น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น ½ ช้อนชา
วิธีทำ
- นำแป้งข้าวเจ้า แป้งท้าวยายม่อม และน้ำผสมให้เข้ากัน จาดนั้นใส่น้ำตาลมะพร้าวลงไปคนจนทุกอย่างละลาย และกรองด้วยกระชอนหนึ่งครั้ง
- ทำส่วนผสมหน้ากะทิ โดยนำหัวกะทิ แป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย และเกลือป่นผสมให้เข้ากันเตรียมไว้
- ตั้งซึ้งนึ่งนำถ้วยตะไลใส่ลงไป รอจนน้ำเดือด ใส่แป้งส่วนตัวขนมลงไปครึ่งถ้วย ปิดฝานึ่ง 15 นาที
- จากนั้นเปิดฝาซึ้งใส่ส่วนผสมหน้ากะทิลงไป ให้เหลือขอบถ้วยเล็กน้อย ปิดฝานึ่งต่อ 10 นาทีด้วยไฟแรง กะทิจะแตกมันสวย
- รอจนเย็นและเสิร์ฟพร้อมถ้วยได้เลย
-
น้ำแข็งใส
วัตถุดิบ
- น้ำแข็งบดละเอียด
- น้ำหวาน
- น้ำเชื่อม
- นมข้น
- เครื่องที่จะใส่ เช่น ขนมปัง เฉาก๊วย ทับทิมกรอบ ข้าวเหนียว วุ้นมะพร้าว ฯลฯ
- ท๊อปปิ้ง เช่น โอโจ้ น้ำตาลเกล็ดสีๆ ช็อกโกแลต เยลลี่ ฯลฯ
วิธีทำ
- ตักน้ำแข็งบดละเอียดใส่ถ้วย
- นำถ้วยมาใส่เครื่องตามใจชอบ แล้วราดน้ำเชื่อม
- นำน้ำแข็งบดละเอียดใส่ลงบนถ้วยที่เราใส่เครื่องและน้ำเชื่อมเอาไว้แล้ว
- เอามือกดน้ำแข็งให้เป็นรูปทรง แล้วเลือกน้ำหวานมาราดได้เลย เมื่อราดน้ำหวานเสร็จก็ตามด้วยนมข้นและเลือกท๊อปปิ้งมาตกแต่งได้เลย เรียบร้อยก็พร้อมเสิร์ฟ
-
ปีกไก่ย่าง
วัตถุดิบ
- ปีกไก่ 1,000 กรัม
- กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทย 1 ช้อนชา
- ซอสปรุงรสฝาเขียว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
- ผงปรุงรส 1/2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- เตรียมเครื่องหมักไก่ นำพริกไทยเม็ดและกระเทียมมาโขลกให้ละเอียด
- ใส่ในชามหมักไก่ตามด้วย วอสปรุงรสฝาเขียว น้ำปลา ผงปรุงรส น้ำตาปี๊ป ยีให้ส่วนผสมเข้ากันดี
- จากนั้นนำปีกไก่ใส่ลงไป ขยำให้เข้ากันดี นำซ้อมจิ้มที่ปีกไก่ เพื่อให้ซอสซึมเข้าได้ดียิ่งขึ้น
- หมักไก่ทิ้งไว้อย่างน้อย 30 – 60 นาที ถ้าทำขายสามารถหมักไว้ข้ามคืน
- นำไม้เสียบลูกชิ้นมาแช่น้ำ 5 – 10 นาที นำไม้เสียบจนถึงปีกไก่ ให้ไก่ตรง
- นำมาย่างบนเตาถ่านด้วยไฟกลางค่อนอ่อน ปิ้งกลับไปกลับมาจนสุกและออกสีเหลืองสวย เป็นอันเสร็จ
-
กุ้งดองซีอิ๊ว
วัตถุดิบ
- กุ้งขาว10 ตัว
- โชยุ 150 กรัม
- น้ำตาลทราย1 ช้อนชา
- น้ำเปล่า100 กรัม
- น้ำปลา2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมจีน 20 กรัม
- พริกจินดาแดง 20 กรัม
- พริกชีฟ้าเขียว สำหรับตกแต่ง
- โซดา 1 ขวด
วิธีทำ
- เคี่ยวน้ำสำหรับใส่กุ้งดองซีอิ๊วเกาหลีโดยเริ่มจากใส่โชยุ น้ำปลา น้ำเปล่า น้ำตาลทราย ลงในหม้อ แล้วเปิดไฟอ่อน ตั้งไว้จนเดือด พอเดือดยกลงพักไว้ให้เย็น
- แกะเปลือกกุ้ง ล้างให้สะอาด นำกุ้งที่แกะแล้ว แช่ในโซดา ประมาณ 3-5 นาที เพื่อให้ได้ผิวสัมผัสที่กรุบกรอบ
- นำกุ้งที่เตรียมไว้ จัดเรียงลงในภาชนะที่เตรียมไว้
- เทโชยุที่พักไว้ลงบนกุ้งให้ท่วม โรยกระเทียมและพริกบนกุ้งแล้วปิดฝา แช่ในตู้เย็นทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมง
-
กล้วยทับน้ำกะทิ
วัตถุดิบ
- กล้วยน้ำว้าห่าม 1 หวี
- กะทิ 1 ถ้วยตวง
- น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
- ใบเตย 2 ใบ
วิธีทำ
- นำกล้วยน้ำว้าห่าม มาปอกเปลือกหั่นเป็นท่อน แล้วนำไปเสียบไม้ ขึ้นเตาปิ้ง จนกล้วยเริ่มขึ้นสีน้ำตาลเกรียมนิด ๆ จึงยกขึ้น
- รองถุงพลาสติกบนเขียงไม้ป้องกันกล้วยติดเขียง แล้วนำเขียงไม้อีกอันทับให้กล้วยแบน
- ตั้งหม้อ ใส่กะทิ น้ำตาลปี๊บ เกลือ และใบเตยลงไป เคี้ยวจนกะทิเริ่มข้นเล็กน้อย แล้วยกขึ้นพักไว้
- นำกล้วยที่ทับไว้มารูดออกจากไม้ แล้วเสียบทับให้เป็นตับ ราดด้วยน้ำราดกะทิ อยากขายอาหาร แต่ไม่รู้จะขายอะไรดี เมนูนี้ก็ทำขายได้ง่าย ๆ เลย
-
ขนมครกสิงคโปร์
วัตถุดิบ
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 180 กรัม
- แป้งมันสำปะหลัง 90 กรัม
- เกลือป่น ½ ช้อนชา
- ผงฟู 1 ½ ช้อนชา
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- น้ำมันพืช 100 มิลลิลิตร
- น้ำใบเตยเข้มข้น 2 ช้อนโต๊ะ
- นมสด 180 มิลลิลิตร
- เนื้อมะพร้าวอ่อน 1 ถ้วย
- ฟักทองบด 1 ถ้วย
- มันม่วงบด 1 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 180 กรัม
วิธีทำ
- ตีไข่ไก่กับน้ำตาลทราย จนน้ำตาลทรายละลาย จากนั้นเทนมสดลงไป และตีให้พอเข้ากัน
- ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ แป้งมัน ผงฟู และเกลือป่นลงไป ตีไปเรื่อย ๆ แล้วค่อย ๆ เทน้ำมันพืชลงไป
- ตีไข่ไก่กับน้ำตาลทรายจนเข้ากัน จากนั้นเทนมสดลงไป และตีให้พอเข้ากัน
- ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ แป้งมัน ผงฟู และเกลือป่นลงไป ตีให้พอเข้ากัน จากนั้นค่อย ๆ เทน้ำมันพืชลงไป และตีให้เข้ากัน
- นำกระทะขึ้นตั้งไฟเบา และรอจนร้อน ทาน้ำมันพืชให้ทั่ว
- จากนั้นตักแป้งหยอดลงไปในหลุมให้สูงประมาณ ¾ ของหลุม หยอดจนครบทุกหลุม ปิดฝา และรอให้สุกประมาณ 2 นาที จากนั้นคีบขนมครกออกจากหลุม แล้วทอดกระทะใหม่จนแป้งหมด จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟจ้า
-
สาคูไส้หมู
- สาคูเม็ดเล็ก 250 กรัม
- หมูสับ 270 กรัม
- รากผักชี 2 ราก
- กระเทียม 3 กลีบ
- พริกไทย 1 ช้อนชา
- หอมแดงสับ 5 หัว
- น้ำตาลปี๊บ 150 กรัม
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- ถั่วลิสงคั่วบด 55 กรัม
- หัวไชโป๊เค็ม 100 กรัม
- กระเทียมเจียว สำหรับโรยหน้า
- ผักกาดหอมและพริกสดสำหรับกินเคียง
วิธีทำ
- นำรากผักชี กระเทียมและพริกไทย มาโขลกให้ละเอียด แล้วนำลงผัดในน้ำมันให้ส่งกลิ่นหอม ตามด้วยหอมแดง และหมูสับผัดจนพอสุก
- ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วขาว ใส่ถั่วลิสงคั่วบด หัวไชโป๊เค็มลงไปผัดให้เข้ากัน แล้วพักไว้จนเย็น
- นำสาคูมาแบ่งเป็น 3 ส่วน แล้วนำไปแช่ในสีผสม หรือน้ำเปล่า เพื่อให้ได้สีที่แตกต่างกัน แช่ประมาณ 10 นาที แล้วรินน้ำออก
- ปั้นไส้ที่พักไว้จนเย็นให้เป็นก้อน เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร แล้วนำเม็ดสาคูที่แช่น้ำไว้มาห่อคลุมให้รอบ
- ทาน้ำมันให้ทั่วลังถึง แล้วนำสาคูไส้หมูที่ปั้นไว้ไปนึ่ง 10 นาที หรือจนกระทั่งสาคูสุกใส
- นำขึ้นคลุกน้ำมันกระเทียมเจียวแล้วจัดเสิร์ฟพร้อมกับผักเคียง
-
ไข่ปิ้งทรงเครื่อง
วัตถุดิบ
- ไข่ไก่ 15 ฟอง
- ซอสปรุงรส 3 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำสะอาด ½ ถ้วยตวง
วิธีทำ
- เจาะเปลือกไก่เป็นรูด้านบนเพียงด้านเดียว ขนาดปานกลาง ใส่ลงในชามที่รองด้วยผ้าขาวบาง เก็บเปลือกไข่ไว้ จนครบ
- ปรุงรสด้วย ซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม พริกไทย และ น้ำสะอาด เจียวให้เข้ากัน
- กรอกไข่ที่เจียวลงเปลือกไข่ด้วยไซริงค์ และนำไปนึ่ง โดยตั้งซึ้งให้น้ำเดือด และลดไฟอ่อน นึ่งประมาณ 50 นาที
- นำไข่ที่นึ่งพักให้เย็นแล้วนำไปย่างไฟอ่อน เพื่อความหอมยิ่งขึ้น
-
บัวลอยไข่หวาน
วัตถุดิบ
- แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
- น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย
- เผือกนึ่งสุก (หรือสีผสมอาหารสีม่วง)
- ฟักทองนึ่งสุก (หรือสีผสมอาหารสีเหลือง)
- น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น (หรือสีผสมอาหารสีเขียว)
- กะทิ 1 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- ไข่ไก่
วิธีทำ
- แบ่งแป้งออกเป็น 3 ส่วน
- ส่วนที่ 1 นวดผสมแป้งกับน้ำเปล่าและเผือกนึ่งสุก
- ส่วนที่ 2 นวดแป้งกับน้ำเปล่าและฟักทองนึ่งสุก
- ส่วนที่ 3 นวดแป้งกับน้ำใบเตย นวดผสมจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ แล้วนำไปคลุกแป้งข้าวเหนียวบาง ๆ เตรียมไว้
- ใส่น้ำกะทิลงในหม้อ เติมน้ำตาลทรายและเกลือป่นคนผสมจนละลาย นำขึ้นตั้งไฟพอเดือด รีบปิดไฟ พักไว้
- ต้มน้ำเปล่าในหม้อจนเดือด นำบัวลอยลงต้มทีละสีจนลอยขึ้นมา จากนั้นตักขึ้นสะเด็ดน้ำ ใส่ลงในถ้วย ตักกะทิที่เตรียมไว้ใส่ลงไป
- ตอกไข่ไก่ใส่ถ้วย ค่อย ๆ เทลงในหม้อน้ำกะทิ รอจนไข่สุกตามชอบ จากนั้นตักใส่ลงในถ้วยบัวลอย พร้อมเสิร์ฟ
-
ไดฟูกุสตรอว์เบอร์รีถั่วแดง
วัตถุดิบ
- แป้งข้าวเหนียว 200 กรัม
- แป้งมัน 50 กรัม
- น้ำตาล 90 กรัม
- น้ำสะอาด 240 มิลลิลิตร
- ถั่วแดง 300 กรัม
- น้ำตาลสำหรับถั่วแดง 150 กรัม
- สตรอว์เบอร์รี 15 ลูก
วิธีทำ
- นำถั่วแดงมาต้มจนนิ่ม จากนั้นปั่นให้ละเอียดแล้วนำไปกวน เพิ่มความหวานให้ไส้ขนมไดฟูกุด้วยน้ำตาลแล้วกวนให้เหนียว
- พักไว้ให้เย็น แล้วนำไปห่อสตรอว์เบอร์รีให้มิด
- นำแป้งข้าวเหนียว น้ำตาล และน้ำสะอาด ผสมให้เข้ากันแล้วนำไปตั้งไปกวนให้เหนียวประมา 5 นาที
- พอแป้งเหนียวก็ยกลงจากเตาเทแป้งที่กวนไว้ลงในถาดที่มีแป้งมันรองอยู่แบ่งให้เป็นก้อนเท่า ๆ กัน แค่นี้ก็ได้แป้งไดฟูกุแล้ว
- นำก้อนแป้งไดฟูกุที่แบ่งไว้มากดให้เป็นแผ่นแล้วห่อถั่วแดงให้มิด
- เป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ “ไดฟูกุสตรอว์เบอร์รีถั่วแดง”
เมนูหลากหลายทั้งคาวและหวาน หากมีทำเลดี ๆ ก็สามารถสร้างรายได้ได้แล้ว แต่หากอยากเพิ่มช่องทางการขาย หรือยังไม่มีหน้าร้านก็สมัคร Grab ร้านค้า หรือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ https://www.grab.com/th/merchant/