ขายของกินอะไรดี 50 เมนูอาหารทำง่าย สร้างรายได้ กำไรงาม

Grab ได้รวบรวมเมนูอาหาร เมนูทำขาย สร้างอาชีพ สร้างรายได้ มาให้เพื่อน ๆได้ลองเลือกกันดู รับรองว่าขายดิบขายดี สำหรับใครที่กำลังมองหาเมนูดี ๆ ขายกับ 50 สูตร เมนูทำขาย ขายง่ายกำไรดี บอกเลยว่าแต่ละเมนู Grab เราได้คัดสรรมาให้แล้ว เน้นอร่อย ทำง่ายๆ ขายคล่อง แถมยังเป็นเมนูที่ขายดี ฮิตติดเทรน มาให้เพื่อน ๆได้ไปลองทำตามกันดูได้เลย

ยำไก่แซ่บ

  1. ยำไก่แซ่บ

วัตถุดิบ

  • ไก่หั่นเต๋า 250 กรัม
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • ผงกระเทียม 1 ช้อนชา
  • แป้งทอดกรอบ
  • โซดา แช่เย็น
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • มะนาว 2-3 ลูก
  • น้ำตาล 1 ช้อนชา
  • พริก 2 ช้อนโต๊ะ
  • ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดง 2 หัว
  • ต้นหอม 20 กรัม

วิธีทำ

  • นำไก่หั่นเต๋าหมักกับผงกระเทียม เกลือ คลุกเคล้าให้เข้ากัน พักไว้ 10 นาที
  • นำไก่ที่หมักไว้ชุบแป้งทอดกรอบ ชุบโซดา และชุบแป้งทอดกรอกอีกครั้ง
  • ตั้งน้ำมันให้ร้อน ใช้ไฟกลาง นำไก่ลงไปทอดจนสีเหลืองกรอบน่าทาน
  • นำเครื่องปรุงน้ำยำใส่ลงชามผสม ตามด้วยไก่ทอด และผัก คลุกเคล้าให้เข้ากัน จัดใส่ถ้วยให้สวยงามหากไม่รู้ว่าจะขายของกินอะไรดี เมนูนี้ก็ถือว่าทำได้ไม่ยาก

ข้าวโพดอบเนย

  1. ข้าวโพดอบเนย

วัตถุดิบ

  • ข้าวโพดต้มสุก แกะออกจากฝัก
  • เนยเค็ม
  • น้ำตาล
  • นมข้นจืด

วิธีทำ

  • ใส่เนย น้ำตาล นมข้นจืด คนจนน้ำตาลละลาย
  • ใส่ข้าวโพดลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟ อาจจะเพิ่มท็อปปิ้งอื่น ๆ เพื่อเพิ่มกำไรได้ตามความเหมาะสม

เกี๊ยวทอด

  1. เกี๊ยวทอด

วัตถุดิบ

  • หมูสับติดมัน 400 กรัม
  • กระเทียมไทย 20 กลีบ
  • รากผักชี 4 ราก
  • พริกไทยป่น ¼ ช้อนชา
  • เกลือ 1 หยิบมือ
  • น้ำตาล 2 ช้อนชา
  • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
  • ต้นหอมซอย 4 ต้น (เฉพาะใบ)
  • น้ำมันพืช สำหรับทอด
  • แผ่นเกี๊ยว 90 แผ่น
  • ไข่ขาว 1 ฟอง

วิธีทำ

  • ตำ 3 เกลอให้ละเอียด นำไปหมักหมูพร้อมปรุงรส คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  • ตักหมูที่หมักเตรียมไว้ใส่แป้งเกี๊ยว ปริมาณพอเหมาะ ทาด้วยไข่ขาว พับเป็น 3 เหลี่ยม
  • ตั้งกระทะ นำเกี๊ยวลงทอด จนเหลืองกรอบ ตักขึ้น ใส่ในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มไก่

น้ำพริกกากหมู

  1. น้ำพริกกากหมู

วัตถุดิบ

  • มันหมู (หั่นเส้น) 2+1/2 กิโลกรัม
  • หอมแดง
  • กระเทียม
  • น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  • ตั้งกระทะ นำมันหมูใส่กระทะ เจียวจนเหลืองกรอบ พักให้สะเด็ดน้ำมันพักไว้
  • ซอยหอมแดง และกระเทียม นำไปทอดจนกรอบ พักไว้รอให้เย็น
  • เตรียมชามผสมใส่น้ำตาลทราย เกลือ พริกป่นคลุกให้เข้ากัน
  • นำกากหมูที่เจียวไว้ มาคลุกเคล้าเครื่องปรุง และหอมเจียว กระเทียมเจียวให้เข้ากัน
  • ตักใส่กระปุก ปิดฝาให้มิดชิด หรือซีลสูญญากาศเก็บไว้นานได้เช่นกัน

กล้วยทอด

  1. กล้วยทอด

วัตถุดิบ

  • กล้วยน้ำว้าห่าม ๆ
  • แป้งทอดกรอบ 300 กรัม
  • แป้งข้าวเจ้า 150 กรัม
  • แป้งอเนกประสงค์ 100 กรัม
  • น้ำตาลทราย 400 กรัม
  • งาขาว 100 กรัม
  • ผงฟู 2 ช้อนชา
  • เกลือป่น 2 ช้อนชา
  • กากมะพร้าว 250 กรัม
  • น้ำปูนใส 500 กรัม
  • กะทิ 150 กรัม

วิธีทำ

  • เตรียมแป้งทอดโดยการผสมวัตถุดิบทั้งหมดในชามผสม โดยเริ่มจากของแห้ง ตามด้วยของเหลว คลุกเคล้าให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  • หั่นกล้วยเป็น 3 ชิ้น และชุปลงในแป้งที่เตรียมไว้
  • ตั้งน้ำมันให้ท่วม รอน้ำมันร้อนจึงทยอยนำกล้วยที่ชุปแป้งแล้วลงไปทอดทีละชิ้น ด้วยไฟอ่อน เพื่อไม่ให้ติดกันเป็นแพและไหม้เร็วเกินไป
  • ทอดจนสีเหลืองทอง พักให้สะเด็ดน้ำมันก็พร้อมขายทันที อาจปรับเป็นพวกมัน ฟักทอง เพื่อเพิ่มความหลากลายของเมนูนี้ให้ดึงดูดลูกค้ามากขึ้น

ลูกชิ้นชุปแป้งทอด

  1. ลูกชิ้นชุปแป้งทอด

วัตถุดิบ

  • แป้งทอดกรอบ 150 กรัม
  • แป้งข้าวเจ้า 150 กรัม
  • น้ำปูนใส 200 มิลลิลิตร (ml.)
  • น้ำเปล่าเย็นจัด 200 มิลลิลิตร (ml.)
  • ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
  • พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
  • สีผสมอาหารสีส้ม 1 ช้อนชา
  • ลูกชิ้นปลา / หมู / ไก่ / เนื้อ
  • ไม้เสียบลูกชิ้น

วัตถุดิบน้ำจิ้มลูกชิ้น

  • มะขามเปียก 100 กรัม (ไม่ชอบเปรี้ยวลดเหลือ 80 กรัม)
  • น้ำอุ่น 500 มิลลิลิตร (ml.)
  • น้ำตาลมะพร้าว 500 กรัม
  • น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือป่น 2 ช้อนชา
  • พริกแดง 100 กรัม
  • กระเทียมไทย 30 กรัม
  • รากผักชี 5 ราก

วิธีทำ

  • ซับลูกชิ้นให้แห้ง ก่อนนำลงไปทอด จะทำให้แป้งติดลูกชิ้นได้ดี และช่วยให้แป้งกรอบนานขึ้น
  • เสียบลูกชิ้นกับไม้เสียบลูกชิ้น ประมาณ 3 ลูก ต่อ 1 ไม้
  • ผสมแป้งทอดกรอบ แป้งข้าวเจ้า น้ำปูนใส และน้ำเย็นจัด แล้วคนผสมให้แป้งเข้ากัน
  • นำลูกชิ้นคลุกแป้งนวล (แป้งข้าวเจ้า) ก่อนนำไปชุบแป้งชุบทอด จะทำให้น้ำแป้งติดดีขึ้น และกรอบมากขึ้น
  • ตั้งน้ำมันให้ร้อน นำลูกชิ้นชุบแป้งทอด แล้วทอดด้วยไฟกลางจนแป้งสีเข้มขึ้นและแข็งกรอบ (ลูกชิ้นจะดันแป้งแตก ไม่ต้องตกใจนะคะ) พอใกล้ได้ที่ให้เร่งไฟเพื่อไล่น้ำมัน
  • ตักลูกชิ้นขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมัน พร้อมเสิร์ฟ
  • นำพริกแดงจินดา กระเทียมไทย และรากผักชี มาปั่นรวมกันให้ละเอียด
  • ละลายน้ำมะขามเปียก โดยการเทน้ำอุ่นลงไปทีละนิด ค่อยๆ ขยำมะขามเปียกและน้ำให้เข้ากัน แล้วนำมากรองเอาแต่น้ำ
  • ตั้งหม้อ เปิดแก๊ส ใส่น้ำมะขามเปียก แล้วใส่น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลทราย และเกลือป่น ใช้ไฟอ่อนเครี่ยวไปเรื่อยๆ จนน้ำตาลละลายหมด
  • ใส่พริก กระเทียม และรากผักชีที่ปั่นตามลงไป ปริมาณความเป็ดตามชอบ เคี่ยวจนน้ำจิ้มเดือดเป็นฟองละเอียด
  • ปิดแก๊ส จากนั้นใส่ผักชีซอยลงไป แล้วคนให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟคู่ลูกชิ้นทอด

ผัดกะเพรา

  1. ผัดกะเพรา

วัตถุดิบ

  • เนื้อสัตว์ตามที่ชอบ 400 กรัม
  • กระเทียม 2 หัว
  • กระเทียม 2 หัว
  • ใบกะเพรา 50 กรัม
  • พริกแดงจินดา 12 เม็ด
  • พริกแห้งแดงจินดา 6 เม็ด
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสปรุงรสฝาเขียว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอย 3 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ้วดำหวาน 1/2 ช้อนโต๊ะ (ไม่ชอบกลิ่นตัดออกได้)
  • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  • หั่นหมูหรือเนื้อสัตว์ตามที่ออกเป็นชิ้นๆ ห้ละเอียดตามความต้องการ แล้วพักไว้
  • โขลกพริกแห้งให้ละเอียด แล้วใส่พริกแดงจินดา และกระเทียมโขลกตามลงไปให้ละเอียด (สามารถปั่นแทนได้ ตามความชอบ)
  • ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันพืชลงไปพอประมาณ ผัดพริกและกระเทียมให้มีกลิ่นหอม
  • เมื่อพริกกระเทียมหอมได้ที่แล้ว ใส่เนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้ลงไปผัดให้กระจาย ไม่เกาะกันเป็นก้อน ผัดให้เข้ากับพริกกระเทียม ให้เนื้อสัตว์สุกในระดับนึง
  • ปรุงรสด้วย น้ำมันหอย น้ำปลา ซอสปรุงรส และซีอิ๊วดำหวาน น้ำตาล เล็กน้อย เร่งไฟผัดให้เข้ากัน ชิมรสชาติ แล้วใส่ใบกะเพราลงไปผัดให้เข้ากัน ปิดเตา ตักเสิร์ฟ

ข้าวไข่เจียว

  1. ข้าวไข่เจียว

วัตถุดิบ

  • ไข่ 2 ฟอง
  • น้ำปลา 1/2 ช้อนชา
  • พริกไทย 1/4 ช้อนชา
  • น้ำ 1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  • ตอกไข่ไก่ใส่ชามผสม ปรุงรสชาติด้วยน้ำปลา พริกไทย ตามด้วยน้ำเปล่า ตีให้เข้ากัน
  • ตั้งกระทะ ให้ร้อน ใส่น้ำมันพอประมาณ วอมกระทะด้วยไฟกลาง พอน้ำมันเริ่มร้อน ให้ใส่ไข่ลงไป
  • ทอดได้สักพัก ค่อยๆ ขยับให้ไข่สุกทั่วกัน พอสีเริ่มออกเหลืองอ่อน ให้กลับอีกด้าน ทอดให้สุกเท่ากัน เป็นอันเสร็จ

กุ้งทอดเกลือ

 

  1. กุ้งทอดเกลือ

วัตถุดิบ

  • กุ้ง 500 กรัม
  • กระเทียม 20 กรัม
  • เนยสด 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • พริกไทย 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ

  • นำกุ้งมาล้างทำความสะอาด แล้วเปลือก ผ่าหลังเอาเส้นดำออก
  • นำกระเทียมมาสับพอหยาบ ๆ
  • ตั้งกระทะใส่น้ำมัน รอจนน้ำมันร้อนจัด
  • นำกุ้งลงทอดให้กุ้งสุกประมาณ 60-80 % อย่าทอดนานเกินไปจนเนื้อกุ้งกระด้าง
  • นำกุ้งขึ้นมาพักไว้ แล้วเทน้ำมันออกเล็กน้อย
  • เปิดเตา ใส่เนยลงไป ตามด้วยกระเทียมสับ
  • ใส่กุ้งที่พักไว้ลงไปทอดต่อ เร่งไฟแรงแล้วปรุงรสชาติด้วยซอสหอยนางรม เกลือ ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย และพริกไทยป่น
  • คลุกเคล้าให้ส่วนผสมเข้ากันดี จากนั้นตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

ทอดมันกุ้ง

  1. ทอดมันกุ้ง

วัตถุดิบ

  • เนื้อกุ้ง 500 กรัม
  • แป้งทอดกรอบ 4 ช้อนโต๊ะ
  • เกล็ดขนมปัง
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • พริกไทย 1/8 ช้อนชา

วิธีทำ

  • นำกุ้งมาล้างทำความสะอาด แล้วปอกเปลือกออกให้หมด
  • นำกุ้งมาสับให้ละเอียด โดยการใช้มีดอีโต้ตบกุ้งก่อน
  • นำเนื้อกุ้งไปใส่ชามผสม ปรุงรสด้วยเกลือป่น พริกไทย และแป้งทอดกรอบ
  • ใช้มือนวดเนื้อกุ้งและเครื่องปรุงเข้ากันดี
  • นวดกุ้งสักพักใหญ่ จนเนื้อกุ้งเหนียว เด้ง เนื้อเนียนผสมกับแป้งดี
  • เตรียมเกล็ดขนมปังโดยเทลงใส่ถาด
  • แป้งชิ้นทอดมันตามชอบ แล้วนำไปคลุกเกล็ดขนมปัง
  • ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน ใช้ไฟกลางรอจนน้ำมันร้อน
  • ใส่ทอดมันกุ้งลงไปทอดจนได้สีเหลืองทอง ตักขึ้นมาพักสะเด็ดน้ำมัน พร้อมทาน

กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา

  1. กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา

วัตถุดิบ

  • กะหล่ำปลี 2 ขีด
  • กระเทียม 15 กลีบ
  • น้ำปลา, น้ำมันหอย อย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืช ปริมาณสำหรับทอดกระเทียมเจียวพอท่วม
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • แป้งทอดกรอบ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  • แกะกะหล่ำปลีเป็นใบๆ แล้วฉีกออกขนาดพอประมาณ ล้างน้ำให้สะอาดแช่เย็นทิ้งไว้
  • นำกระเทียมมาสับคลุกกับเกลือป่น และแป้งทอดกรอบเล็กน้อย จากนั้นนำไปเจียวให้เหลืองกรอบ พักไว้
  • ตั้งน้ำมันในกระทะให้ร้อน นำกะหล่ำปลีลงไปผัดปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมันหอยเล็กน้อย
  • พอผักสลบเล็กน้อยตักใส่จานโรยด้วยกระเทียมเจียว หากใครที่ไม่ชอบกระเทียมเจียวไม่จำเป็นต้องใส่ก็อร่อยเช่นเดียวกันนะคะ

กุ้งอบวุ้นเส้น

  1. กุ้งอบวุ้นเส้น

วัตถุดิบ

  • กุ้งก้ามกราม 1  กิโลกรัม
  • หมูสามชั้น 150  กรัม
  • วุ้นเส้น 200  กรัม
  • ต้นหอม 3  ต้น
  • ขึ้นฉ่าย 3  ต้น
  • ขิงแก่ 1  แง่ง
  • กระเทียม 1  หัว
  • รากผักชี 4  ราก
  • ชวงเจีย (พริกหอม) 1  ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยป่น 1  ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 500  มิลลิลิตร
  • ซอสหอยนางรม 4  ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ้วขาว 2+1/2  ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ้วดำ(หวาน) 2  ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงา 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1  ช้อนโต๊ะ
  • เหล้าจีน 2  ช้อนโต๊ะ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ตามชอบ)

วิธีทำ

  • เริ่มจากผสมน้ำซอสสำหรับอบวุ้นเส้น โดยใส่ น้ำเปล่า ซอสหอยนางรม ซีอิ้วขาว ซีอิ้วดำหวาน น้ำมันงา และน้ำตาลทราย แล้วคนส่วนผสมให้เข้ากัน และน้ำตาลทรายละลายหมด (ไม่ต้องต้ม)
  • ใส่กุ้งลงไปแช่ในน้ำซอสที่ผสมไว้ แล้วพักไว้
  • นำกระทะมาตั้งไฟ ใช้ไฟกลางแล้วใส่หมูสามชั้นลงไป คั่วหมูสามชั้นไปเรื่อยๆ เพื่อรีดน้ำมันออกมา
  • พอน้ำมันออกมาพอสมควร ให้ใส่กระเทียม รากผักชี และขิงแก่ลงไปในกระทะ แล้วผัดให้หอม
  • ใส่ชวงเจียตาลงไป (ถ้าไม่มีใส่พริกไทยเม็ดแทนได้) ผัดจนหอม
  • เมื่อเครื่องเทศหอมดีแล้ว ให้ใส่น้ำซอสที่ผสมไว้ลงไปในกระทะ รอน้ำเดือดลองชิมรสชาติดู (เน้นให้รสจัด เค็มนำ)
  • ใส่กุ้งตามลงไป (ถ้าใช้กุ้งตัวเล็กให้ใส่กุ้งพร้อมวุ้นเส้นได้เลย) พอกุ้งเปลี่ยนสีใส่วุ้นเส้นที่แช่น้ำไว้แล้ว ลงไปในกระทะ คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่พริกไทยป่นลงไป ปริมาณตามชอบ
  • คอยคนจนวุ้นเส้นสุกดี และดูดน้ำซอสเข้าไปหมด
  • ปิดเตา โรยผักตกแต่ง พร้อมรับประทาน

ซุปเปอร์ตีนไก่ตุ๋นยาจีน

  1. ซุปเปอร์ตีนไก่ตุ๋นยาจีน

วัตถุดิบ

  • ตีนไก่ 1 กิโลกรัม
  • ชุดเครื่องตุ๋นจีน 1 ชุด
  • รากผักชี 5 ราก
  • พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียม 5 กลีบ
  • เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผักชีฝรั่ง (ผักชีใบเลื่อย)
  • ผักชีไทย
  • พริกขี้หนู
  • มะนาว
  • น้ำปลา

วิธีทำ

  • ล้างตีนไก่ให้สะอาดลวกน้ำร้อนพักไว้สะเด็ดน้ำ
  • ตั้งน้ำให้เดือด นำรากผักชี กระเทียม พริกไทยที่ตำรวมกันใส่ไปในหม้อ ตามด้วยเครื่องตุ๋นยาจีน
  • ใส่เกลือป่น น้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วดำ ซอสถั่วเหลือง ลงไป ตามด้วยตีนไก่ ต้มจนเปื่อยและเข้าเนื้อ
  • ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว พริกขี้หนูปรุงรสตามชอบ โรยหน้าด้วยผักชีทานร้อน ๆ

หมูทอดน้ำปลา

  1. หมูทอดน้ำปลา

วัตถุดิบ

  • สันคอหมู 1 กิโล
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสปรุงรส 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทย 1 ช้อนชา

วิธีทำ

  • นำเนื้อหมูไปล้างให้สะอาด แล้วนำหมูไปแช่ในช่องแช่แข็งสักพัก แล้วลองกดดูให้ข้างในเริ่มเป็นแกนแข็งๆ จึงนำหมูมาหั่น จะทำให้เราหั่นหมูได้ง่าย
  • หั่นหมูเป็นชิ้นหนาประมาณ 1 นิ้ว เหมือนการหั่นสเต๊ก เพื่อให้ทอดแล้วเนื้อหมูยังมีความนุ่มอยู่
  • พักหมูไว้ให้ละลายและเนื้อนิ่มดี
  • นำเครื่องปรุง ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส น้ำปลา น้ำมันหอย น้ำตาลทราย และพริกไทย มาผสมให้เข้ากันในโถผสม คนจนน้ำตาลละลายดี
  • นำเนื้อหมูมาหมักกับเครื่องปรุง นวดให้เครื่องปรุงเข้าเนื้อ แล้วพักเนื้อหมูทิ้งไว้สักพัก ไม่ต้องนำเข้าตู้เย็น
  • ทำน้ำจิ้มแจ่ว ระหว่างรอเนื้อหมักหมูให้เข้าเนื้อดี
  • นำเนื้อหมูใส่หม้อทอดไร้น้ำมัน ตั้งอุณหภูมิ 180 องศา ใช้เวลา 8 นาที
  • ครบ 8 นาทีแรก ให้นำเนื้อหมูมาพลิกด้าน แล้วนำเข้าหม้อทอดไร้น้ำมันต่ออีก 8 นาที
  • เมื่อครบเวลา นำเนื้อหมูออกมาหั่น สังเกตว่าเนื้อหมูจะมีความเกรียมดี แต่ยังมีความชุ่มฉ่ำอยู่ พร้อมรับทานคู่น้ำจิ้มแจ่ว

ปูผัดผงกะหรี่

15.ปูผัดผงกะหรี่

วัตถุดิบ

  • ปูม้าสด 500 กรัม
  • น้ำพริกเผา 3 ช้อนโต๊ะ
  • ผงกะหรี่ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอย 2 ช้อนชา
  • เหล้าจีน 2 ช้อนชา
  • ซอสปรุงรส 2 ช้อนชา
  • น้ำปลา 2 ช้อนชา
  • กระเทียมสับหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกสด 15 เม็ด
  • พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
  • นมข้นจืด 1 ถ้วย
  • น้ำ 1/2 ถ้วย
  • หอมหัวใหญ่ 1 ถ้วย
  • ขึ้นฉ่าย 1 ถ้วย
  • ต้นหอม 1/ 2 ถ้วย
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง

วิธีทำ

  • เริ่มจากการเตรียมชามผสม สำหรับทำน้ำปรุง ตอกไข่ใส่ลงไป ตีไข่ให้แตก ใส่น้ำพริกเผา น้ำตาลทราย ซอสปรุงรส  น้ำมันหอย น้ำปลา นมข้นจืด เหล้าจีน คนส่วนผสมให้เข้ากันดี พักไว้ก่อน
  • ตั้งกระทะ เปิดไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไป เมื่อน้ำมันร้อนดีแล้ว ใส่กระเทียมลงไปผัดให้พอให้มีกลิ่นหอม แล้วใส่ผงกะหรี่ตามลงไปผัดเพื่อให้มีกลิ่นหอม ตามด้วยพริกไทยป่นผัดต่อสักพัก
  • เมื่อเริ่มมีกลิ่นหอมดีแล้ว ใส่น้ำปรุงที่เตรียมไว้ลงไป แต่ยังไม่ต้องคน ให้ใส่ปูม้า หอมใหญ่ พริกแดงซอย แล้วปิดฝา รอให้เดือดหรือให้ไข่ข้นขึ้นก่อนค่อยคน
  • คนให้เข้ากัน ผัดไปมาจนปูเปลี่ยนเป็นสีส้ม แสดงว่าปูสุกแล้ว ชิมรสปรุงให้ได้ตามชอบ แล้วจึงปิดไฟใส่ต้นหอมซอย ใบขึ้นฉ่ายลงไป ผัดให้พอผักสลด ตักใส่จานเสิร์ฟ

ขาหมูพะโล้สูตรโบราณ

16.ขาหมูพะโล้สูตรโบราณ

วัตถุดิบ

  • ขาหมู 2 กิโลกรัม
  • ไข่เป็ด 10 ฟอง
  • ผักกาดดอง(เปรี้ยว) 200 กรัม
  • รากผักชี 20 กรัม
  • กระเทียม 40 กรัม
  • พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 2,000 กรัม
  • ซอสถั่วเหลือง คิคโคแมน (โชยุญี่ปุ่น) 15 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 8 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  • ตั้งเตาต้มน้ำให้เดือด แล้วใส่เกลือลงไป จากนั้นเอาไข่เป็ดลงไปต้มให้สุก
  • เทคนิคทำให้ไข่แดงอยู่ตรงกลางใบ คือ ช่วงแรกของการต้มไข่ให้หมั่นคนไข่ให้ทั่ว
  • นำรากผักชี กระเทียม และพริกไทย มาโขลกรวมกันให้ละเอียด
  • ตั้งกระทะให้ท่วม รอจนน้ำมันพอร้อน นำขาหมูที่ล้างทำความสะอาดและพักให้สะเด็ดน้ำลงไปทอด
  • ทอดพอให้หนังหมูและเนื้อส่วนนอกตึงและสุกขึ้นมา ปิดเตาแล้วนำขาหมูมาพักไว้
  • เตรียมหม้อตุ๋นขาหมู ใส่น้ำมันพืช และสามเกลอที่โขลกไว้ลงไปผัดให้หอม จากนั้นตักขึ้นมาพักไว้
  • ใส่น้ำตาลปี๊บ และน้ำเปล่าเล็กน้อยลงในหม้อ ผัดด้วยไฟกลางจนน้ำตาลละลาย และสีเข้มขึ้นจนคล้าย  คาราเมล
  • ใส่ซอสถั่วเหลือง ลงไปผัดให้เข้ากับน้ำตาลปี๊บ เร่งไฟเป็นไฟแรง
  • ใส่สามเกลอตามลงไปผัดให้เข้ากัน
  • ใส่ขาหมูที่ทอดไว้ลงไป ตามด้วยผักกาดดองที่ล้างทำความสะอาดแล้ว
  • จากนั้นใส่น้ำเปล่าลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากัน แล้วรอให้น้ำกลับมาเดือดอีกครั้ง
  • ลดไปลงเหลือไฟกลาง ใส่ไข่ต้มลงไป ใช้ไฟกลางค่อนอ่อน ตุ๋นขาหมูต่อไปอีกประมาณ 3.30 ชั่วโมง
  • ชิมรสชาติให้ได้รสชาติที่ต้องการ พร้อมเสิร์ฟ

วัตถุดิบน้ำจิ้มขาหมูพะโล้สูตรโบราณ

  • กระเทียม 20 กรัม
  • พริกแดงจินดา 10 กรัม
  • น้ำส้มสายชู 6 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1 ช้อนชา

วิธีทำ

  • นำส่วนผสมทั้งหมดมาปั่นหรือโขลกรวมกัน
  • ปั่นให้ส่วนผสมละเอียดเข้ากันดี
  • ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟไข่น้ำสไตล์ญี่ปุ่น
  1. ไข่น้ำสไตล์ญี่ปุ่น

วัตถุดิบ

  • ไข่ไก่ 3 ฟอง
  • สาหร่ายวากาเมะ 20 กรัม
  • เต้าหู้อ่อน 100 กรัม
  • ต้นหอมญี่ปุ่น 30 กรัม
  • น้ำ 1,200 มิลลิลิตร
  • คิคโคแมน โยเซนาเบะซุป 5 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  • ตอกไข่ไก่ใส่ชามผสม รอไว้ ตีไข่ให้แตกเข้ากันดี พักไว้
  • ซอยต้มหอมญี่ปุ่นเตรียมรอไว้ ตามด้วยเต้าหู้อ่อน หั่นตามความต้องการ
  • เปิดเตา ตั้งน้ำให้เดือด พอน้ำเริ่มเดือด ใส่ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น
  • พอน้ำเดือด คนน้ำซุปให้วนๆ จากนั้นเทไข่ไก่ลงไป อย่าพึ่งกวน รอจนไข่สุกดีก่อน
  • ตามด้วยสาหร่ายวากาเมะ และเต้าหู้อ่อน
  • รอจนเดือด แล้วจึงใส่ต้นหอมญี่ปุ่นลงไปตามชอบ รอจนเดือดดีอีกครั้ง เป็นอันเสร็จ

ผัดซีอิ๊ว

  1. ผัดซีอิ๊ว

วัตถุดิบ

  • เส้นใหญ่ 100 กรัม
  • เนื้อหมู 1/3 ถ้วย
  • คะน้า 3 ต้น
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • กระเทียมสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ (สำหรับผัด)
  • ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว ½ ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยป่น ตามต้องการ

วิธีทำ

  • หั่นคะน้า และหั่นหมูเป็นชิ้นพอดีคำ หมักหมูด้วยพริกไทย และซีอิ๊วขาวเล็กน้อย หมักทิ้งไว้
  • ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย ใส่กระเทียมสับลงไปเจียวจนสุกเหลือง และมีกลิ่นหอม จากนั้นให้เร่งไฟขึ้น และใส่เนื้อหมูลงไปผัดจนสุก
  • ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วดำ น้ำมันหอย และซีอิ๊วขาว ผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน แล้วจึงใส่เส้นใหญ่ลงไปผัด
  • แบ่งส่วนผสมทั้งหมดไปไว้ข้างหนึ่งของกระทะ แล้วตอกไข่ลงไป ใช้ตะหลิวตีไข่เบา ๆ ให้พอเข้ากัน พอเห็นว่าไข่เริ่มสุก ก็ยกเส้นขึ้นมากลบไข่ ใส่คะน้าแล้วผัดให้สุกทั่วกัน
  • ตักใส่จานเสิร์ฟ อาจจะเสิร์ฟคู่กับ พริกน้ำส้ม พริกป่น น้ำปลา น้ำตาล ให้ปรุงเพิ่มกันตามใจชอบ เพียงเท่านี้เราก็มีเมนูทำง่าย ขายคล่องกันแล้ว

ยำตะไคร้กุ้ง

  1. ยำตะไคร้กุ้ง

วัตถุดิบ

  • กุ้ง 500 กรัม
  • ตะไคร้ (ซอย) 30 กรัม
  • หอมแดง 50 กรัม
  • พริกจินดาเขียว,แดง 15 กรัม
  • พริกขี้หนู 2 กรัม
  • น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 1/3 ช้อนโต๊ะ
  • สะระแหน่
  • ถั่วลิสงทอด

วิธีทำ

  • หั่นโคนตะไคร้แข็งๆ ออกไป แล้วซอยให้บางๆ
  • ซอยหอมแดง พริกจินดา หั่นมะนาว และคั้นน้ำมะนาว เตรียมไว้
  • ทำน้ำยำ ผสมน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลปี๊บเข้าด้วยกัน คนผสมให้เข้ากันจนน้ำตาลละลายดี จากนั้นชิมรสชาติปรับรสให้ได้ที่ต้องการ แล้วพักไว้
  • แกะเปลือกกุ้ง แล้วนำมาล้างทำความสะอาด แช่น้ำแข็งไว้ ผ่าหลังกุ้งเพื่อเอาเส้นดำออก
  • ตั้งหม้อน้ำให้เดือด แล้วนำกุ้งลงไปลวกในน้ำที่เดือดจัดได้ที่ ลวกกุ้งแค่พอสุกแล้วตักขึ้นพักไว้
  • ใส่เครื่องยำลงไปในภาชนะที่จะใช้ยำ ใส่ตะไคร้ หอมแดง พริกจินดา กุ้ง ตามด้วยน้ำยำที่ผสมไว้ และถั่วลิสงทอด คนผสมให้เข้ากันดี แล้วตักใส่จาน
  • ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่ และโรยด้วยถั่วลิสงทอด พร้อมเสิร์ฟ

สเต็กหมูพริกไทยดำ

  1. สเต็กหมูพริกไทยดำ

วัตถุดิบ

  • สันคอหมู 700 กรัม
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • นมข้นจืด 5 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันมะกอก 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยดำ 1 ช้อนชา
  • สับปะรด
  • น้ำสต๊อก 150 มิลลิลิตร
  • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ้วญี่ปุ่น 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยดำ 1/2 ช้อนชา
  • แป้งสาลี 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำ 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  • เริ่มหมักหมู ใส่เกลือ นมข้นจืด น้ำมันพืช พริกไทยดำ สับปะรด ลงในชามผสม คนให้เข้ากันดี
  • นำหมูมาคลุกเคล้ากับซอสให้เข้ากันดี ปิดด้วยพลาสติกแรป นำไปแช่ตู้เย็น 4-6 ชั่วโมง
  • เปิดเตาตั้งกระทะ โดยที่ยังไม่ต้องใส่น้ำมัน รอจนกระทะร้อนได้ที่ เทน้ำมันลงไปเล็กน้อย
  • นำสเต็กหมูลงไปทอด ด้วยไฟกลางค่อนไปอ่อน ปล่อยทิ้งไว้จนหมูออกขาว พลิกกลับด้าน จากนั้นนำฝาปิด และอบไปเรื่อยๆ ประมาณ 3-4 นาที
  • เปิดฝา ทอดต่ออีกสักพักเพื่อไล่ความชื้นจนสุกดีอีกประมาณ 10 นาที นำขึ้นมาพักไว้
  • ทำซอสเกรวี่ โดยใช้กระทะเดิมที่ทอดหมู ไม่ต้องล้างออก เติมน้ำสต็อกหมูลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย ซีอิ๊วญี่ปุ่น ซอสมะเขือเทศ เปิดเตา
  • รอจนเดือด นำแป้งสาลีผสมน้ำเตรียมไว้ ชิมรสชาติให้ได้ตามชอบ ใส่พริกไทยดำลงไป
  • ใส่แป้งสาลีลงไป ค่อยๆ ทยอยใส่ ตามชอบ เคี่ยวไปเรื่อยๆ ให้แป้งสุกดี
  • นำเสิร์ฟพร้อมสลัดผักสด เฟรนช์ฟรายส์ทอดตามชอบ

ข้าวเหนียวมะม่วง

21.ข้าวเหนียวมะม่วง

วัตถุดิบ

  • ข้าวเหนียวขาว 500 กรัม
  • สารส้มโขลกละเอียด 1 ช้อนชา
  • น้ำ สำหรับแช่ข้าวเหนียว
  • ใบเตยฉีกแล้วมัดประมาณ 10 ใบ
  • กะทิกล่อง 350 มิลลิลิตร
  • น้ำตาลทราย 200 กรัม
  • เกลือป่น 2 ช้อนชา

วิธีทำ

  • ซาวข้าวเหนียวจนสะอาด ใส่สารส้มลงไป เติมน้ำเปล่าลงไปจนท่วมข้าวเหนียว จากนั้นคนผสมจนเข้ากัน แช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมง
  • ล้างข้าวเหนียวที่แช่กับสารส้มไว้จนสะอาด สะเด็ดน้ำแล้วพักไว้สักครู่
  • เทข้าวเหนียวลงในหวดนึ่งข้าว ใส่ใบเตยลงไป นำหวดไปวางลงในน้ำเดือด นึ่งประมาณ 20 นาที จนข้าวเหนียวสุก
  • ผสมกะทิกับน้ำตาลทรายและเกลือป่นในอ่างผสม คนจนเข้ากัน เทข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้วลงไป คนผสมจนเข้ากัน พักทิ้งไว้ 30 นาที จนข้าวเหนียวระอุ
  • เสิร์ฟคู่กับมะม่วงสุก ราดน้ำกะทิหอม ๆ น่ารับประทานมาก

ไก่ทอดวิงซ์แซ่บ

  1. ไก่ทอดวิงซ์แซ่บ

วัตถุดิบ

  • ผงปรุงครบรสไก่ 44 กรัม
  • ผงมะนาว 13 กรัม
  • น้ำตาลไอซิ่ง 15 กรัม
  • ข้าวคั่ว 23 กรัม
  • พริกป่น 4 กรัม
  • พริกปาปริกา 3 กรัม
  • ปีกไก่ 960 กรัม (ประมาณ 20 ปีก)
  • แป้งทอดกรอบ 200 กรัม
  • น้ำเย็นจัด 240 มิลลิลิตร
  • น้ำมันพืชสำหรับทอด

 

วิธีทำ

  • เตรียมผงวิงซ์แซ่บโดยผสมผงปรุงไก่ ผงมะนาว น้ำตาลไอซิ่ง ข้าวคั่ว พริกป่น และพริกปาปริก้า คนให้เข้ากัน
  • จากนั้นมาเตรียมผสมแป้งทอดกรอบกับน้ำเย็น คนให้เข้ากัน
  • นำปีกไก่ไปคลุกกับแป้งทอดกรอบให้ทั่วชิ้น จากนั้นนำไก่มาคลุกกับแป้งแห้งอีกครั้ง
  • ตั้งเตา ใส่น้ำมัน แล้วทอดไก่ให้สุก เหลืองกรอบ แล้วตักขึ้นพักได้เลย
  • คลุกผงวิงซ์แซ่บบนไก่ทอด ให้เข้ากันเป็นอันเสร็จพร้อมขายสร้างรายได้

โจ๊กหมู

  1. โจ๊กหมู

วัตถุดิบ

  • ข้าวสารหอมมะลิ 180 กรัม
  • ข้าวสารข้าวเหนียว 100 กรัม
  • น้ำเปล่า 2000 มิลลิลิตร ( ถ้าโจ๊กข้นไปสามารถเพิ่มได้)
  • รากผักชี 2-3 ราก
  • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนตวง
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนตวง
  • ซุปก้อนรสหมู 1 ก้อน
  • หมูเด้ง ตามชอบ
  • ไข่ลวก
  • ขิงซอย
  • ต้นหอมซอย
  • พริกไทยป่น
  • กระเทียมเจียว
  • ซอสแม๊กกี้

วิธีทำ

  • นำข้าวสารทั้งสองชนิด บดรวมกันให้ละเอียด
  • ตั้งน้ำ เปิดไฟ ใส่ซุปก้อน รากผักชี น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว เกลือป่น รอให้น้ำเดือด
  • เมื่อน้ำเดือดแล้ว ตักหมูเด้งแบ่งใส่ลงไปเป็นชิ้นพอดีคำ ต้มให้สุกจากนั้นตักขึ้นมาผักไว้ พร้อมรากผักชี
  • จากนั้นใช้หม้อใบเดิม ปรับเป็นไฟอ่อน ค่อยๆ เทข้าวที่บดแล้วลงไป และอีกมือนึงต้องคนตลอดเวลา ต้มไปเรื่อยๆ จนกระทั่งข้าวเหนียวข้นดี ใช้เวลาประมาณ 7 นาที
  • ตักใส่ชาม พร้อมเสิร์ฟคู่กับหมูเด้ง ไข่ลวก ขิงซอย ต้นหอม กระเทียมเจียว พริกไทยป่น ตามชอบ เป็นอันเสร็จ

ขนมกุยช่าย

  1. ขนมกุยช่าย

วัตถุดิบ

  • แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม
  • แป้งมันสำปะหลัง 250 กรัม
  • แป้งเท้ายายม่อม 30 กรัม
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือสมุทร 1 1/2 ช้อนชา
  • น้ำสะอาด 2 1/2 ถ้วย
  • กุยช่าย 800 กรัม
  • เกลือสมุทร 1 1/4 ช้อนชา (ถ้าใช้เกลือป่นให้ลดปริมาณลงด้วยนะคะ)
  • น้ำตาลทราย 2 1/2 ช้อนชา
  • เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
  • น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืชสำหรับทาถาดและสำหรับทอดกุยช่าย

วิธีทำ

  • ล้างใบกุยช่ายแล้วหั่นเป็นท่อนสั้น ๆ จากนั้นนำไปคลุกเคล้ากับเกลือสมุทร น้ำตาลทราย เบกกิ้งโซดา และน้ำมันพืช พักไว้ 1 ชั่วโมง พอครบเวลาให้บีบคั้นน้ำใบกุยช่ายออกจนแห้ง
  • ใส่แป้งมันสำปะหลัง แป้งเท้ายายม่อม แป้งข้าวเจ้า น้ำสะอาด เกลือสมุทร และน้ำตาลทราย ลงในอ่างผสม คนผสมให้เข้ากันแล้วนำไปกรองด้วยผ้าขาวบางตาห่าง ๆ
  • จากนั้นเทส่วนผสมใส่กระทะ ยกขึ้นตั้งไฟอ่อน หมั่นคนและกวนให้ส่วนผสมเข้ากันพอข้นเหนียว แต่ไม่ต้องถึงขนาดให้สุกดีจนเป็นก้อนนะคะ (เคล็ดลับ : ถ้าแป้งสุกเกินไปจะเป็นก้อน กุยช่ายจะไม่สามารถผสมเข้าในเนื้อแป้งได้ เพราะแป้งเซตตัวไปซะแล้ว) จากนั้นปิดไฟ ยกลงจากเตา
  • ใส่ใบกุยช่ายที่บีบน้ำจนแห้งแล้วลงไป คนให้แป้งและกุยช่ายเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
  • เตรียมถาดสี่เหลี่ยม ทาน้ำมันพืชให้ทั่ว ตักส่วนผสมที่ทำใส่ลงไปเกลี่ยให้หน้าเรียบ หนาประมาณ 1 เซนติเมตร จากนั้นนำไปนึ่งบนน้ำเดือดด้วยไฟปานกลาง เวลาประมาณ 15 นาที หรือจนสุก ยกออกจากเตา พักให้เย็น
  • ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป (ใช้ไฟไม่ต้องแรงนะคะ) พอน้ำมันร้อนก็ตัดขนมกุยช่ายเป็นชิ้นลงทอดให้กรอบทั้งสองด้าน
  • ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน ตัดเป็นชิ้นขนาดพอคำ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มค่ะ

เมี่ยงเบคอนพันเห็ดเห็ดเข็มทอง

  1. เมี่ยงเบคอนพันเห็ดเห็ดเข็มทอง

วัตถุดิบ

  • เบคอน ½ กิโลกรัม
  • เห็ดเข็มทอง ½ กิโลกรัม
  • พริกขี้หนูสวน ½ ถ้วย
  • กระเทียมไทย 10 กลีบ
  • รากผักชี 3 ราก
  • มะนาว 3 ลูก
  • น้ำปลา ½ ถ้วย
  • น้ำตาลปี๊บ ⅓ ถ้วย
  • ถั่วตัด ⅓ ถ้วย อ่านต่อได้ที่

วิธีทำ

  • นำเบคอนมาพันกับเห็ดเข็มทอง ใช้ไม้จิ้มฟันกลัดไว้ แล้วนำไปย่างให้สุกบนเตาย่าง โดยให้ไฟกลางเพื่อให้เห็ดมีความสุกที่ทั่วถึง
  • ตำกระเทียม พริกขี้หนู ถัวตัด รากผักชี จนละเอียด ปรุงรสน้ำปลา น้ำตาลปี๊ป น้ำมะนาว ชิมรสตามชอบ
  • จัดเสริฟใส่ถาดใหญ่ คู่กับน้ำจิ้มเมี่ยง และผักเคียงตามชอบเต้าหู้ทอด
  1. เต้าหู้ทอด

วัตถุดิบ

  • เต้าหู้ขาว/เหลืองชนิดแข็ง
  • น้ำตาลทราย 60 กรัม
  • น้ำตาลปี๊บ 60 กรัม
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • น้ำส้มสายชู 5 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ
  • พริกสีแดง 1 เม็ด
  • ถั่วลิสงคั่ว

วิธีทำ

  • หั่นเต้าหู้เป็นเต๋าใหญ่พักไว้ ซับให้แห้ง
  • ตั้งน้ำมันให้ร้อนใส่เต้าหู้ลงไปทอดโดยใช้ไฟกลางจนเต้าหู้เหลืองกรอบ
  • ผสมน้ำตาล เกลือ น้ำส้มสายชู และน้ำเปล่าในหม้อ คนเข้าเข้ากัน นำไปตั้งไฟกลาง เคี่ยวจนละลายและเหนียวข้น พักให้เย็น
  • ตักน้ำจิ้มใส่ถ้วย เติมพริกกับถั่วคั่วลงไป เสิร์ฟกับเต้าหู้ทอด

ข้าวเหนียวกล้วยปิ้ง
27.ข้าวเหนียวกล้วยปิ้ง

วัตถุดิบ

  • ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 2 ถ้วยตวง
  • น้ำเปล่า 2 ¼ ถ้วยตวง
  • กะทิ 1 ถ้วยตวง
  • น้ำตาลทราย ¾ ถ้วยตวง
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • ใบเตย 3 ใบ
  • กล้วยน้ำว้า 1 หวี

วิธีทำ

  • นำข้าวเหนียวเขี้ยวงูแช่น้ำทิ้งไว้ 30 นาที แล้วนำไปหุงในหม้อที่รองผ้าขาวบางชุบน้ำให้สุก 15 นาที เตรียมไว้
  • ตั้งหม้อเปิดไฟใส่กะทิ น้ำตาลทราย เกลือ และใบเตย คนให้น้ำตาลละลายดี ปิดไฟ แล้วใส่ข้าวเหนียวที่นึ่งเตรียมไว้ลงไป คลุกให้เข้ากัน ปิดฝาทิ้งไว้ 15 นาที
  • เผาใบตอง เตรียมไว้ หลังจากนั้นปอกกล้วย และหั่นกล้วยครึ่งเตรียมไว้
  • ตักข้าวเหนียวมูนใส่ใบตอง ตามด้วยกล้วย และข้าวเหนียวมูนอีกชั้นแล้วห่อใบตอง กลัดด้วยไม้กลัดไว้
  • นำข้าวเหนียวกล้วยไปปิ้ง 10 นาทีทั้งสองด้านให้มีกลิ่นหอม พร้อมจัดเสิร์ฟ
    เล้งแซ่บ
  1. เล้งแซ่บ

วัตถุดิบ

  • น้ำสะอาด 4 ลิตร
  • กระดูกเล้ง 2 กิโลกรัม
  • น้ำกระเทียม 1/2 ถ้วย
  • เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซุปหมูก้อน 2 ก้อน
  • รากผักชี 2-3 ต้น
  • หอมใหญ่ 1 หัว
  • น้ำตาลกรวด 20 กรัม
  • น้ำปลา
  • พริกขี้หนูสวน เม็ดเล็ก
  • น้ำมะนาว
  • ต้นหอมผักชี ผักชีฝรั่ง

วิธีทำ

  • เริ่มจากการต้มน้ำซุป นำกระดูกหมูเล้ง หรือกระดูกซุป ล้างน้ำให้สะอาด ต้มน้ำทิ้ง 1 รอบ แล้วใส่น้ำต้มใหม่จนหมูสุก ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
  • ใส่ซุปก้อน เกลือ รากผักชี น้ำกระเทียมดอง น้ำตาลกรวด หอมหัวใหญ่ แครอท ต้มอีกประมาณ 30 นาที ชิมน้ำซุป ปรุงให้ได้ตามชอบ
  • ตักกระดูกเล้ง ใส่หม้อ ใส่ชามเตรียมไว้ก่อน ตักน้ำซุปใส่หม้อ แล้วปรุงน้ำซุป ใส่พริกขี้หนูสวนปั่นหยาบ ๆ ลงไป ความเผ็ดตามชอบ และปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาวตราราชารส โรยด้วยต้นหอมผักชี ผักชีฝรั่ง ได้ตามชอบ

ผัดผักบุ้งไฟแดง

  1. ผัดผักบุ้งไฟแดง

วัตถุดิบ

  • ผักบุ้งจีน 1 กำ
  • กระเทียมปอกเปลือกทุบ 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกชี้ฟ้าทุบ 2 เม็ด
  • เต้าเจี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับผัด)

วิธีทำ

  • ตัดโคนผักบุ้งออก เด็ดเป็นท่อน นำไปแช่ในน้ำผสมด่างทับทิมทิ้งไว้สักครู่ จากนั้นล้างน้ำให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
  • นำผักบุ้งใส่จาน ใส่พริก กระเทียม เต้าเจี้ยว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย และน้ำเปล่า ลงไป
  • ตั้งกระทะใช้ไฟแรง ใส่น้ำมันพืชลงไป พอน้ำมันร้อนจัดเทผักบุ้งที่เตรียมไว้ลงไป ผัดเร็ว ๆ พอให้ผักบุ้งสลด ปิดเตา ตักใส่จานเสิร์ฟ

 

เอ็นข้อไก่ทอด

เอ็นข้อไก่ทอด

วัตถุดิบ

  • เอ็นข้อไก่ 700 กรัม
  • แป้งทอดกรอบ 4-5 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียม 7 กรัม
  • ใบมะกรูด 10 กรัม
  • น้ำปลา 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทย 1/2 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 80-100 กรัม

วิธีทำ

  • นำกระเทียมไปโขลกพอหยาบ ใส่ลงไปในเอ็นข้อไก่ ตามด้วยน้ำปลา พริกไทยป่นตามชอบ และแป้งทอดกรอบ และน้ำเปล่าเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  • ได้ที่แล้ว เติมงาคั่วลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน บิดใบมะกรูดพักไว้
  • ตั้งน้ำมันในกระทะให้ร้อนจัด เทน้ำมันให้ท่วม ใช้ไฟกลาง จากนั้นนำลงไปทอด กระจายให้ทั่วกระทะ
  • รอสักพัก ใช้ตะหลิวเขี่ยเอ็นข้อไก่กระจายออกจากกัน ทอดไปเรื่อยๆ จนออกสีเหลืองได้ที่ ให้ใส่ใบมะกรูดลงไป เพิ่มความหอม ทอดต่ออีกเล็กน้อย เป็นอันเสร็จ

แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย

31.แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย

วัตถุดิบ

  • เนื้อปลากรายขูด 500 กรัม
  • มะเขือเปราะ 500 กรัม
  • มะเขือพวง 100 กรัม
  • กระชาย 30 กรัม
  • พริกชี้ฟ้าแดง 30 กรัม
  • ใบโหระพา 10 กรัม
  • ใบมะกรูด 2 กรัม
  • พริกแกงเขียวหวาน 100 กรัม
  • หัวกะทิ 400 กรัม
  • หางกะทิ 900 กรัม
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  • นำน้ำเย็นจัดผสมเกลือ มานวดผสมกับเนื้อปลากรายขูด โดยทยอยใส่ทีละน้อย
  • นวดปลากรายจะได้เนื้อเหนียวเท่าที่ต้องการ
  • นำมะเขือเปรามาหั่นแล้วแชาลงในน้ำเปล่าที่ผสมเกลือไว้ เพื่อไม่ให้มะเขือดำ
  • ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด ใส่ตะไคร้ใบมะกรูด แล้วนำปลากรายมาปั้นเป็นก้อนตามต้องการ
  • เมื่อปลากรายสุกดี (ลอยขึ้นจากน้ำ) ให้ตักปลากรายขึ้นมาแช่ในน้ำเย็นจัด
  • ตั้งกระทะ ใส่หัวกะทิส่วนแรก ผัดหัวกะทิด้วยไฟกลางจนเดือดและแตกมัน
  • พอหัวกะทิแตกมันให้ใส่พริกแกงเขียวหวานลงไปผัดกับหัวกะทิจนหอม ถ้าแห้งเกินไปสามารถใส่หัวกะทิเพิ่มได้
  • พอพริกแกงสุกหอมดีใส่หางกะทิลงไป แล้วคนผสมให้เข้ากัน จากนั้นเร่งไฟแรง
  • ต้มจนน้ำกะทิกลับมาเดือดอีกครั้ง ให้ใส่ลูกชิ้นปลากรายลงไป แล้วใส่มะเขือเปราะ ต้มต่อจนแกงกลับมาเดือด พอน้ำแกงเดือดให้ปรุงรสชาติด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา คนให้น้ำตาลละลายดีแล้วชิมรสชาติ
  • ใส่มะเขือพวง ตามด้วยพริกชี้ฟ้าแดง และใบมะกรูด คนให้เข้ากัน
  • ใส่ใบโหระพา แล้วคนให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ

ไข่พะโล้

  1. ไข่พะโล้

วัตถุดิบ

  • ไข่ไก่ 6 ฟอง
  • รากผักชี 4 ราก
  • กระเทียม 5 กลีบ
  • พริกไทย ½ ช้อนชา
  • หมูสามชั้น 200 กรัม
  • น้ำตาลปี๊บ ½ ถ้วย
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • โป๊ยกั๊ก 4 ดอก
  • อบเชย 1-2 ชิ้น
  • น้ำมันพืช สำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 3 ถ้วย

วิธีทำ

  • ตั้งน้ำใส่เกลือนิดหน่อย ต้มไข่ด้วยไฟกลางประมาณ 10 นาที แล้วยกลงจากเตา เอาไข่ออกมาแช่น้ำให้เย็นแล้วปอกเปลือกแล้วพักไว้
  • นำสามเกลอ (รากผักชี กระเทียม และพริกไทย) โขลกให้ละเอียด
  • เมื่อโขลก 3 เกลอละเอียดแล้ว ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันลงไปนำสามเกลอลงไปผัดให้หอม
  • เมื่อสามเกลอเริ่มหอมแล้วให้ใส่น้ำตาลปี๊บลงไปผัด และเคี่ยวจนน้ำตาลสีเข้มจัด เมื่อได้สีน้ำตาลเข้มจัดอย่างที่ต้องการใส่หมูสามชั้นลงไปผัดแค่พอสุก
  • ใส่ไข่ต้มและน้ำเปล่า ลงไปตามด้วยโป๊ยกั๊กและอบเชย
  • ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย พอน้ำซุปเดือดแล้วให้เบาไฟลงโดยใช้ไฟอ่อน
  • ค่อยๆ เคี่ยวต่อไปประมาณ 1 ชั่วโมง น้ำซุปจึงจะเริ่มเข้าเนื้อ พร้อมเสิร์ฟ

ข้าวคลุกกะปิ

  1. ข้าวคลุกกะปิ

วัตถุดิบ

  • ข้าวสวย 2,000 กรัม (2 กิโลกรัม)
  • กะปิ 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียม 30 กรัม
  • ไข่ม้วน
  • กุนเชียง
  • กุ้งแห้งทอด
  • พริกทอด
  • แตงกวา
  • มะม่วงเปรี้ยว
  • หอมแดง
  • ถั่วฝักยาว
  • พริกสด
  • มะนาว

วิธีทำ

  • ล้างทำความสะอาดและหั่นเครื่องเคียงผักสด มะม่วงเปรี้ยว แตงกวา ถั่วฝักยาว หอมแดง พริกสด มะนาว กุนเชียงเลือกใส่ได้ตามต้องการ
  • ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน ตามด้วยใส่กระเทียม ที่โขลกหรือสับไว้ก็ได้ เจียวให้กระเทียมเริ่มหอมและเป็นสีเหลือง ให้ใส่กะปิตามลงไป แล้วผัดจนหอม จากนั้นใส่น้ำเปล่าลงไปพอประมาณ เพื่อละลายกะปิ
  • ผัดจนน้ำเริ่มแห้งใส่ข้าวสวยลงไปในกระทะที่ผัดกะปิ แล้วคลุกให้ข้าวกับกะปิเข้ากัน ลองชิมรสชาติให้พอดี จากนั้นเปิดเตา ผัดให้ข้าวร้อนทั่วถึง
  • ตักจัดแต่งจาน พร้อมเครื่องเคียงพร้อมรับประทาน

ก๋วยเตี๋ยวเป็ด

  1. ก๋วยเตี๋ยวเป็ด

วัตถุดิบ

  • น่องเป็ดติดเนื้อ 2 ชิ้น
  • กระเทียม 6 กลีบ
  • โป๊ยกั๊ก 3 ดอก
  • อบเชย 2 ก้าน
  • พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ
  • รากผักชี หรือก้านผักชี 2 ช้อนโต๊ะ
  • ผงพะโล้ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วดำหวาน 3 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมดอง พร้อมน้ำกระเทียมดอง 2 ช้อนโต๊ะ
  • ใบเตย 2-3 ใบ
  • น้ำ 1/2 หม้อ (ประมาณ 5 ถ้วย)
  • เส้นก๋วยเตี๋ยว
  • กากหมูกระเทียมเจียว
  • ตั้งฉ่าย
  • น้ำส้มพริกดอง
  • ต้นหอมกับผักชีสับหยาบ
  • เครื่องปรุงตามชอบ

วิธีทำ

  • นำกระเทียม โป๊ยกั๊ก อบเชย พริกไทยเม็ด และรากผักชีใส่ห่อผ้าขาวบาง มัดให้เรียบร้อย
  • นำน้ำครึ่งหม้อใส่ผงพะโล้ ถ้าใครไม่ชอบกลิ่นพะโล้แรงมาก ให้ลดผงพะโล้เหลือ 1 ช้อนชา เติมซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และซีอิ๊วดำหวาน ใส่หัวกระเทียมดองทั้งหัวพร้อมน้ำกระเทียมดอง ใส่เครื่องที่ห่อไว้ลงไป มัดใบเตยใส่ลงไปเพิ่มความหอม
  • ใส่น่องเป็ดลงไป ปิดฝา เปิดไฟกลางค่อนไปทางอ่อน ตุ๋นไปอีก 1 ชั่วโมง หรือจนเนื้อเป็ดเปื่อยจนเป็นที่พอใจก็ปิดเตา
  • ลวกเส้นตามชอบใส่ชาม แล้วก็ลวกผักคะน้ากับถั่วงอกลงชาม ใส่กากหมูกระเทียมเจียว ตามด้วยตั้งฉ่ายนิดหน่อย เติมน้ำส้มพริกดอง
  • ตักเป็ดขึ้นมาแล้วก็สับเป็นชิ้นตามชอบ โปะลงบนเส้นก๋วยเตี๋ยว ตักน้ำซุปลงชาม ใส่ต้นหอมกับผักชีสับหยาบ โรยพริกไทยป่น ปรุงรสตามชอบ

หมูกรอบ

  1. หมูกรอบ

วัตถุดิบ

  • เนื้อหมูสามชั้น
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • น้ำส้มสายชู
  • น้ำมัน สำหรับทอด

วิธีทำ

  • นำหมูมาบั้งให้หนังหมูเป็นริ้ว ๆ ทาเกลือให้ทั่วแล้วพักไว้ จะทำให้เครื่องปรุงซึมเข้าไปในเนื้อง่าย และเวลาทอดออกมาจะกรอบฟู น่ารับประทาน
  • นำด้านที่เป็นหนังหมูไปแช่น้ำส้มสายชู 20 นาที จะช่วยให้หนังหมูกรอบฟูเวลาทอด
  • ​ ใช้กระดาษซับก่อนนำไปทอดครั้งที่ 1 ให้พอสุกสีเหลืองทองสวยน่ากินทั้งชิ้น
  • เสร็จแล้วนำไปแช่แข็งในช่องฟรีซ อย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง หรือแช่ค้างคืนไว้ยิ่งดี เพราะถ้ายิ่งหนังหมูแข็งเวลาทอดจะยิ่งกรอบฟูมาก ๆ สามารถเก็บไว้ได้นานในช่องฟรีซ เวลาจะกินก็แค่นำออกมาทอด
  • นำหมูที่แช่ฟรีซไว้มาทอดครั้งที่ 2 นำส่วนหนังลงทอดในน้ำมันร้อน ใช้ไฟปานกลางจนหนังกรอบฟู แล้วก็ทอดให้เหลืองกรอบน่ากินทั้งชิ้น เพียงเท่านี้ก็ได้หมูกรอบข้างนอก นุ่มข้างใน

ขนมจีนน้ำเงี้ยว

  1. ขนมจีนน้ำเงี้ยว

วัตถุดิบ

  • หมูบด 500 กรัม
  • ซี่โครงอ่อน 500 กรัม
  • เลือดไก่ 3 ก้อน
  • มะเขือเทศสีดา 1 กิโลกรัม
  • ดอกงิ้วตามชอบ
  • ผักชีต้นหอม3กำ
  • พริกแห้งทอด 20 เม็ด
  • พริกน้ำเงี้ยว 500 กรัม
  • กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลาตามชอบ
  • น้ำตาล
  • กระเทียมเจียว
  • ผักแกล้ม เช่น กะหล่ะปลีซอย, ถั่วงอก, ผักกาดดองซอย

วิธีทำ

  • เริ่มเคี่ยวกระดูกอ่อนรอไว้ก่อนกว่าจะเปื่อยหั่นของเสร็จพอดี
  • แช่ดอกงิ้วรอไว้ นานๆหน่อยสักชั่วโมงนึงเวลาต้มจะได้เปื่อยง่าย ๆ
  • หั่นเลือดไก่ มะเขือเทศ เป็นเต๋าใหญ่
  • นำพริกแกงมาผัดกับน้ำมัน ตามด้วยมะเขือเทศลงไปผัดให้เปื่อย
  • นำไปเทใส่หม้อที่เคี่ยวกระดูกอ่อน ตามด้วยหมูบด และเลือดไก่
  • ใส่กะปิลงไปเลย ใช้แทนถั่วเน่าไม่ชอบกลิ่นถั่วเน่า คนทุกอย่างให้ละลายเข้ากัน ปรุงรสตามชอบ ออกเค็มหวาน ปล่อยให้เดือด ลดไฟลงเคี่ยวไปเรื่อย ๆ
  • ใส่ดอกงิ้วลงไป เคี่ยวจนเดือด ตักร้านบนขนมจีนเสิร์ฟร้อน ๆ

ขนมจีนน้ำยา

  1. ขนมจีนน้ำยา

วัตถุดิบ

  • ตะไคร้ 200 กรัม
  • กระเทียม 30 กรัม
  • หอมแดง 50 กรัม
  • ข่า 60 กรัม
  • กระชาย 400 กรัม
  • พริกแห้ง 20 เม็ด
  • เนื้อปลาตาเดียว 500 กรัม
  • กะทิ 250 มิลลิลิตร
  • น้ำเปล่า 4 ถ้วย
  • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 2 ช้อนชา
  • ลูกชิ้นปลา 150 กรัม
  • ผักกินแกล้ม (ถั่วงอก, โหระพา, ถั่วฝักยาว, ผักกาดดอง)

วิธีทำ

  • ต้มน้ำให้เดือด ใส่ตะไคร้ กระเทียม หอมแดง ข่า กระชาย และ พริกแห้งลงไป ตามด้วยเนื้อปลา ต้มจนสุกกรองทุกอย่างออก และเก็บน้ำต้มไว้ด้วย
  • นำผักและเนื้อปลาที่ต้ม มาโขลกให้ละเอียดจนกลายเป็นเครื่องแกง (ระวังเรื่องก้าง)
  • ตั้งกระทะเทน้ำกะทิลงไปครึ่งหนึ่ง รอจนร้อนได้ที่ ให้นำเครื่องแกงลงไปผัดกับกะทิจนเข้ากันแล้ว ให้เติมกะทิส่วนที่เหลือลงไป ตามด้วยน้ำเปล่าเคี่ยวจนกะทิแตกมัน
  • ปรุงรสด้วยน้ำปลา เกลือ และตามด้วยใส่ลูกชิ้นปลาลงไป
  • ตักน้ำยากะทิราดบนขนมจีน เสิร์ฟคู่กับผักแกล้ม

สปาเกตตี้ขี้เมา

  1. สปาเกตตี้ขี้เมา

วัตถุดิบ

  • เส้นสปาเก็ตตี้ลวก 100 กรัม
  • ปลาหมึก 1 ถ้วยตวง
  • กุ้ง 1 ถ้วยตวง
  • กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูตำ 2 ช้อนโต๊ะ
  • กระชายซอย 1 กำมือ
  • ใบมะกรูด 1 กำมือ
  • ใบกะเพรา 1 กำมือ
  • พริกไทยอ่อน 1 ถ้วยตวงตามชอบ
  • ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  • ตำกระเทียมกับพริกให้เข้ากัน แล้วพักไว้
  • ลวกเส้นสปาเก็ตตี้เตรียมไว้ จากนั้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
  • เทน้ำมันพืชลงไปในกระทะ ใส่พริกกระเทียมต่ำ ผัดจนหอม แล้วใส่กุ้งกับปลาหมึกลงไป ผัดจนสุก
  • ใส่เส้นสปาเก็ตตี้ลวกลงไป จากนั้นปรุงรสด้วยเครื่องปรุงต่าง ๆ ชิมรสตามชอบ
  • ใส่กระชายซอย ใบมะกรูด และใบกะเพรา จากนั้นผัดจนกลิ่นหอมของเครื่องเทศเหล่านี้ออกมา
  • ปิดไฟ ตักเสิร์ฟได้เลย

หมึกย่าง

  1. หมึกย่าง

วัตถุดิบ

  • น้ำเปล่า 2,000  กรัม
  • ผงขมิ้น 2  ช้อนชา
  • สีผสมอาหารสีเหลืองไข่แบบซอง ปลายช้อนชา
  • ซีอิ้วดำ 2-3 ช้อนโตะ
  • พริกจินดาแดง 60 กรัม
  • พริกขี้หนูสวน 40 กรัม
  • รากผักชี 15 กรัม
  • กระเทียม 100 กรัม
  • กระเทียมดอง 50 กรัม
  • น้ำกระเทียมดอง 80 มิลลิลิตร
  • น้ำมะนาวคั้นสด 180 มิลลิลิตร
  • น้ำปลา 100 มิลลิลิตร
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • กระเทียมซอย 20 กรัม
  • มะนาวหั่นเต๋า 1 ลูก
  • ผักชีซอย ตามชอบ

วิธีทำ

  • ทำน้ำหมักโดยนำน้ำเปล่าผสมกับ ผงขมิ้น สีผสมอาหารเล็กน้อย และซีอิ๊วดำเข้าด้วยกัน
  • นำหมึกเสียบไม้ หมักกับน้ำมัน 5-10 นาที และนำไปย่าง
  • ทำน้ำจิ้มโดยนำเครื่องปรุงทั้งหมดปั่นเข้าด้วยกัน ก็พร้อมเสิร์ฟคู่กับหมึกย่างร้อน ๆ แล้ว

พานาคอตต้า

  1. พานาคอตต้า

วัตถุดิบ

  • วิปปิ้งครีมสด 600 กรัม
  • นมสด 600 กรัม
  • น้ำตาลทราย 270 กรัม
  • วานิลลา 1/2 ช้อนชา
  • ผงเจลาติน (ผง) 36 กรัม
  • น้ำเปล่า 180 กรัม
  • สตรอว์เบอร์รี่แช่แข็ง 400 กรัม

วิธีทำ

  • นำเจลาติน ค่อย ๆ โรย ใส่ลงไปในน้ำเปล่า คนให้เจลาตินละลาย พักไว้ประมาณ 5-10 นาที
  • เมื่อครบเวลา ก่อนนำไปใช้ ให้นำเจลาติน เข้าไมโครเวฟ ประมาณ 20 วินาที ให้กลายเป็นของเหลวอีกรอบ และนำไปใช้งานได้
  • ผสมนมสด วิปปิ้งครีมสด น้ำตาลทราย วานิลลา ลงไปต้ม ไฟอ่อน ค่อย ๆ คนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันพอมีไอร้อน ที่ลอยขึ้นมาได้ ปิดเตา
  • จากนั้น ใส่เจลาตินที่เตรียมไว้ ตามลงไป คนให้เจลาตินเข้ากับครีมนม
  • ก่อนหยอด พานาคอตต้า ลงพิมพ์ ขั้นตอนนี้ ให้กรองส่วนผสมที่ทำไว้ 1 รอบ เพื่อให้ได้เนื้อพานาคอตต้าที่เนียนนั่นเอง
  • เตรียมพิมพ์สำหรับหยอดพานาคอตต้า จะใช้เป็นถ้วยเจลลี่ หรือถ้วยพุดดิ้งก็ได้ เทส่วนผสมชั้นแรก คือ ชั้นครีมนม ลงไปประมาณเกือบเต็มถ้วย จากนั้น นำไปแช่เย็น ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
  • ทำซอสสตอเบอรี่ โดยนำสตอเบอรี่แช่แข็ง ใส่น้ำตาลทราย 120 กรัม ลงในหม้อ ตั้งไฟใช้ไฟกลาง ค่อย ๆ บี้และเคี่ยวจนงวด เวลาประมาณ 5-10 นาที ปิดเตา พักซอสให้เย็น เตรียมไว้
  • นำพานาคอตต้า ที่แช่แข็งไว้ ออกมา นำซอสสตอเบอรี่ที่ทำไว้ ราดไว้ด้านบน Topping ตามชอบ

ขนมถ้วย

  1. ขนมถ้วย

วัตถุดิบ

  • แป้งข้าวเจ้า 200 กรัม
  • แป้งท้าวยายม่อม 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลมะพร้าว 400 กรัม
  • น้ำ 900 กรัม
  • หัวกะทิ 400 กรัม
  • แป้งข้าวเจ้า 40 กรัม
  • น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือป่น ½ ช้อนชา

วิธีทำ

  • นำแป้งข้าวเจ้า แป้งท้าวยายม่อม และน้ำผสมให้เข้ากัน จาดนั้นใส่น้ำตาลมะพร้าวลงไปคนจนทุกอย่างละลาย และกรองด้วยกระชอนหนึ่งครั้ง
  • ทำส่วนผสมหน้ากะทิ โดยนำหัวกะทิ แป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย และเกลือป่นผสมให้เข้ากันเตรียมไว้
  • ตั้งซึ้งนึ่งนำถ้วยตะไลใส่ลงไป รอจนน้ำเดือด ใส่แป้งส่วนตัวขนมลงไปครึ่งถ้วย ปิดฝานึ่ง 15 นาที
  • จากนั้นเปิดฝาซึ้งใส่ส่วนผสมหน้ากะทิลงไป ให้เหลือขอบถ้วยเล็กน้อย ปิดฝานึ่งต่อ 10 นาทีด้วยไฟแรง กะทิจะแตกมันสวย
  • รอจนเย็นและเสิร์ฟพร้อมถ้วยได้เลย

น้ำแข็งใส

  1. น้ำแข็งใส

วัตถุดิบ

  • น้ำแข็งบดละเอียด
  • น้ำหวาน
  • น้ำเชื่อม
  • นมข้น
  • เครื่องที่จะใส่ เช่น ขนมปัง เฉาก๊วย ทับทิมกรอบ ข้าวเหนียว วุ้นมะพร้าว ฯลฯ
  • ท๊อปปิ้ง เช่น โอโจ้ น้ำตาลเกล็ดสีๆ ช็อกโกแลต เยลลี่ ฯลฯ

วิธีทำ

  • ตักน้ำแข็งบดละเอียดใส่ถ้วย
  • นำถ้วยมาใส่เครื่องตามใจชอบ แล้วราดน้ำเชื่อม
  • นำน้ำแข็งบดละเอียดใส่ลงบนถ้วยที่เราใส่เครื่องและน้ำเชื่อมเอาไว้แล้ว
  • เอามือกดน้ำแข็งให้เป็นรูปทรง แล้วเลือกน้ำหวานมาราดได้เลย เมื่อราดน้ำหวานเสร็จก็ตามด้วยนมข้นและเลือกท๊อปปิ้งมาตกแต่งได้เลย เรียบร้อยก็พร้อมเสิร์ฟ

ปีกไก่ย่าง

  1. ปีกไก่ย่าง

วัตถุดิบ

  • ปีกไก่ 1,000 กรัม
  • กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทย 1 ช้อนชา
  • ซอสปรุงรสฝาเขียว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ผงปรุงรส 1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  • เตรียมเครื่องหมักไก่ นำพริกไทยเม็ดและกระเทียมมาโขลกให้ละเอียด
  • ใส่ในชามหมักไก่ตามด้วย วอสปรุงรสฝาเขียว น้ำปลา ผงปรุงรส น้ำตาปี๊ป ยีให้ส่วนผสมเข้ากันดี
  • จากนั้นนำปีกไก่ใส่ลงไป ขยำให้เข้ากันดี นำซ้อมจิ้มที่ปีกไก่ เพื่อให้ซอสซึมเข้าได้ดียิ่งขึ้น
  • หมักไก่ทิ้งไว้อย่างน้อย 30 – 60 นาที ถ้าทำขายสามารถหมักไว้ข้ามคืน
  • นำไม้เสียบลูกชิ้นมาแช่น้ำ 5 – 10 นาที นำไม้เสียบจนถึงปีกไก่ ให้ไก่ตรง
  • นำมาย่างบนเตาถ่านด้วยไฟกลางค่อนอ่อน ปิ้งกลับไปกลับมาจนสุกและออกสีเหลืองสวย เป็นอันเสร็จกุ้งดองซีอิ๊ว
  1. กุ้งดองซีอิ๊ว

วัตถุดิบ

  • กุ้งขาว10 ตัว
  • โชยุ 150 กรัม
  • น้ำตาลทราย1 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า100 กรัม
  • น้ำปลา2 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมจีน 20 กรัม
  • พริกจินดาแดง 20 กรัม
  • พริกชีฟ้าเขียว สำหรับตกแต่ง
  • โซดา 1 ขวด

วิธีทำ

  • เคี่ยวน้ำสำหรับใส่กุ้งดองซีอิ๊วเกาหลีโดยเริ่มจากใส่โชยุ น้ำปลา น้ำเปล่า น้ำตาลทราย ลงในหม้อ แล้วเปิดไฟอ่อน ตั้งไว้จนเดือด พอเดือดยกลงพักไว้ให้เย็น
  • แกะเปลือกกุ้ง ล้างให้สะอาด นำกุ้งที่แกะแล้ว แช่ในโซดา ประมาณ 3-5 นาที เพื่อให้ได้ผิวสัมผัสที่กรุบกรอบ
  • นำกุ้งที่เตรียมไว้ จัดเรียงลงในภาชนะที่เตรียมไว้
  • เทโชยุที่พักไว้ลงบนกุ้งให้ท่วม โรยกระเทียมและพริกบนกุ้งแล้วปิดฝา แช่ในตู้เย็นทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมง

กล้วยทับน้ำกะทิ

  1. กล้วยทับน้ำกะทิ

วัตถุดิบ

  • กล้วยน้ำว้าห่าม 1 หวี
  • กะทิ 1 ถ้วยตวง
  • น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • ใบเตย 2 ใบ

วิธีทำ

  • นำกล้วยน้ำว้าห่าม มาปอกเปลือกหั่นเป็นท่อน แล้วนำไปเสียบไม้ ขึ้นเตาปิ้ง จนกล้วยเริ่มขึ้นสีน้ำตาลเกรียมนิด ๆ จึงยกขึ้น
  • รองถุงพลาสติกบนเขียงไม้ป้องกันกล้วยติดเขียง แล้วนำเขียงไม้อีกอันทับให้กล้วยแบน
  • ตั้งหม้อ ใส่กะทิ น้ำตาลปี๊บ เกลือ และใบเตยลงไป เคี้ยวจนกะทิเริ่มข้นเล็กน้อย แล้วยกขึ้นพักไว้
  • นำกล้วยที่ทับไว้มารูดออกจากไม้ แล้วเสียบทับให้เป็นตับ ราดด้วยน้ำราดกะทิ อยากขายอาหาร แต่ไม่รู้จะขายอะไรดี เมนูนี้ก็ทำขายได้ง่าย ๆ เลย

ขนมครกสิงคโปร์

  1. ขนมครกสิงคโปร์

วัตถุดิบ

  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 180 กรัม
  • แป้งมันสำปะหลัง 90 กรัม
  • เกลือป่น ½ ช้อนชา
  • ผงฟู 1 ½ ช้อนชา
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • น้ำมันพืช 100 มิลลิลิตร
  • น้ำใบเตยเข้มข้น 2 ช้อนโต๊ะ
  • นมสด 180 มิลลิลิตร
  • เนื้อมะพร้าวอ่อน 1 ถ้วย
  • ฟักทองบด 1 ถ้วย
  • มันม่วงบด 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 180 กรัม

วิธีทำ

  • ตีไข่ไก่กับน้ำตาลทราย จนน้ำตาลทรายละลาย จากนั้นเทนมสดลงไป และตีให้พอเข้ากัน
  • ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ แป้งมัน ผงฟู และเกลือป่นลงไป ตีไปเรื่อย ๆ แล้วค่อย ๆ เทน้ำมันพืชลงไป
  • ตีไข่ไก่กับน้ำตาลทรายจนเข้ากัน จากนั้นเทนมสดลงไป และตีให้พอเข้ากัน
  • ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ แป้งมัน ผงฟู และเกลือป่นลงไป ตีให้พอเข้ากัน จากนั้นค่อย ๆ เทน้ำมันพืชลงไป และตีให้เข้ากัน
  • นำกระทะขึ้นตั้งไฟเบา และรอจนร้อน ทาน้ำมันพืชให้ทั่ว
  • จากนั้นตักแป้งหยอดลงไปในหลุมให้สูงประมาณ ¾ ของหลุม หยอดจนครบทุกหลุม ปิดฝา และรอให้สุกประมาณ 2 นาที จากนั้นคีบขนมครกออกจากหลุม แล้วทอดกระทะใหม่จนแป้งหมด จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟจ้า

สาคูไส้หมู

  1. สาคูไส้หมู

  • สาคูเม็ดเล็ก 250 กรัม
  • หมูสับ 270 กรัม
  • รากผักชี 2 ราก
  • กระเทียม 3 กลีบ
  • พริกไทย 1 ช้อนชา
  • หอมแดงสับ 5 หัว
  • น้ำตาลปี๊บ 150 กรัม
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • ถั่วลิสงคั่วบด 55 กรัม
  • หัวไชโป๊เค็ม 100 กรัม
  • กระเทียมเจียว สำหรับโรยหน้า
  • ผักกาดหอมและพริกสดสำหรับกินเคียง

วิธีทำ

  • นำรากผักชี กระเทียมและพริกไทย มาโขลกให้ละเอียด แล้วนำลงผัดในน้ำมันให้ส่งกลิ่นหอม ตามด้วยหอมแดง และหมูสับผัดจนพอสุก
  • ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วขาว ใส่ถั่วลิสงคั่วบด หัวไชโป๊เค็มลงไปผัดให้เข้ากัน แล้วพักไว้จนเย็น
  • นำสาคูมาแบ่งเป็น 3 ส่วน แล้วนำไปแช่ในสีผสม หรือน้ำเปล่า เพื่อให้ได้สีที่แตกต่างกัน แช่ประมาณ 10 นาที แล้วรินน้ำออก
  • ปั้นไส้ที่พักไว้จนเย็นให้เป็นก้อน เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร แล้วนำเม็ดสาคูที่แช่น้ำไว้มาห่อคลุมให้รอบ
  • ทาน้ำมันให้ทั่วลังถึง แล้วนำสาคูไส้หมูที่ปั้นไว้ไปนึ่ง 10 นาที หรือจนกระทั่งสาคูสุกใส
  • นำขึ้นคลุกน้ำมันกระเทียมเจียวแล้วจัดเสิร์ฟพร้อมกับผักเคียง

ไข่ปิ้งทรงเครื่อง

  1. ไข่ปิ้งทรงเครื่อง

วัตถุดิบ

  • ไข่ไก่ 15 ฟอง
  • ซอสปรุงรส 3 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำสะอาด ½ ถ้วยตวง

วิธีทำ

  • เจาะเปลือกไก่เป็นรูด้านบนเพียงด้านเดียว ขนาดปานกลาง ใส่ลงในชามที่รองด้วยผ้าขาวบาง เก็บเปลือกไข่ไว้ จนครบ
  • ปรุงรสด้วย ซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม พริกไทย และ น้ำสะอาด เจียวให้เข้ากัน
  • กรอกไข่ที่เจียวลงเปลือกไข่ด้วยไซริงค์ และนำไปนึ่ง โดยตั้งซึ้งให้น้ำเดือด และลดไฟอ่อน นึ่งประมาณ 50 นาที
  • นำไข่ที่นึ่งพักให้เย็นแล้วนำไปย่างไฟอ่อน เพื่อความหอมยิ่งขึ้น

บัวลอยไข่หวาน

  1. บัวลอยไข่หวาน

วัตถุดิบ

  • แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
  • น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย
  • เผือกนึ่งสุก (หรือสีผสมอาหารสีม่วง)
  • ฟักทองนึ่งสุก (หรือสีผสมอาหารสีเหลือง)
  • น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น (หรือสีผสมอาหารสีเขียว)
  • กะทิ 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • ไข่ไก่

วิธีทำ

  • แบ่งแป้งออกเป็น 3 ส่วน
    • ส่วนที่ 1 นวดผสมแป้งกับน้ำเปล่าและเผือกนึ่งสุก
    • ส่วนที่ 2 นวดแป้งกับน้ำเปล่าและฟักทองนึ่งสุก
    • ส่วนที่ 3 นวดแป้งกับน้ำใบเตย นวดผสมจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ แล้วนำไปคลุกแป้งข้าวเหนียวบาง ๆ เตรียมไว้
  • ใส่น้ำกะทิลงในหม้อ เติมน้ำตาลทรายและเกลือป่นคนผสมจนละลาย นำขึ้นตั้งไฟพอเดือด รีบปิดไฟ พักไว้
  • ต้มน้ำเปล่าในหม้อจนเดือด นำบัวลอยลงต้มทีละสีจนลอยขึ้นมา จากนั้นตักขึ้นสะเด็ดน้ำ ใส่ลงในถ้วย ตักกะทิที่เตรียมไว้ใส่ลงไป
  • ตอกไข่ไก่ใส่ถ้วย ค่อย ๆ เทลงในหม้อน้ำกะทิ รอจนไข่สุกตามชอบ จากนั้นตักใส่ลงในถ้วยบัวลอย พร้อมเสิร์ฟ

ไดฟูกุสตรอว์เบอร์รีถั่วแดง

  1. ไดฟูกุสตรอว์เบอร์รีถั่วแดง

วัตถุดิบ

  • แป้งข้าวเหนียว 200 กรัม
  • แป้งมัน 50 กรัม
  • น้ำตาล 90 กรัม
  • น้ำสะอาด 240 มิลลิลิตร
  • ถั่วแดง 300 กรัม
  • น้ำตาลสำหรับถั่วแดง 150 กรัม
  • สตรอว์เบอร์รี 15 ลูก

วิธีทำ

  • นำถั่วแดงมาต้มจนนิ่ม จากนั้นปั่นให้ละเอียดแล้วนำไปกวน เพิ่มความหวานให้ไส้ขนมไดฟูกุด้วยน้ำตาลแล้วกวนให้เหนียว
  • พักไว้ให้เย็น แล้วนำไปห่อสตรอว์เบอร์รีให้มิด
  • นำแป้งข้าวเหนียว น้ำตาล และน้ำสะอาด ผสมให้เข้ากันแล้วนำไปตั้งไปกวนให้เหนียวประมา 5 นาที
  • พอแป้งเหนียวก็ยกลงจากเตาเทแป้งที่กวนไว้ลงในถาดที่มีแป้งมันรองอยู่แบ่งให้เป็นก้อนเท่า ๆ กัน แค่นี้ก็ได้แป้งไดฟูกุแล้ว
  • นำก้อนแป้งไดฟูกุที่แบ่งไว้มากดให้เป็นแผ่นแล้วห่อถั่วแดงให้มิด
  • เป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ “ไดฟูกุสตรอว์เบอร์รีถั่วแดง”

 

เมนูหลากหลายทั้งคาวและหวาน หากมีทำเลดี ๆ ก็สามารถสร้างรายได้ได้แล้ว แต่หากอยากเพิ่มช่องทางการขาย หรือยังไม่มีหน้าร้านก็สมัคร Grab ร้านค้า หรือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ https://www.grab.com/th/merchant/