การเช็คระยะรถยนต์ต้องเช็คอะไรบ้าง หากไม่เช็คจะเป็นอย่างไร

หลาย ๆ คนเมื่อออกรถยนต์มาแล้วใช้งานไประยะหนึ่ง ก็เริ่มที่จะละเลยการตรวจเช็คระยะรถยนต์ไป เพราะอาจจะกังวัลว่าไปเช็คระยะแล้วจะต้องเสียค่าใช้จ่าย เสียเวลา รถยังไม่พัง ไม่เป็นไรหรอกมั้ง แต่หารู้ไม่ว่าการไม่ไปเช็คระยะรถยนต์ตามคู่มือนั้น กำลังเป็นการทำร้ายรถยนต์ของคุณทางอ้อม ! วันนี้ทาง Grab เลยรวบรวมข้อมูลที่ควรรู้ในการเช็คระยะรถที่จะช่วยให้รถยนต์คู่ใจของคุณมีอายุการทำงานที่ยาวนานขึ้นเป็นเท่าตัว 

การเช็คระยะรถยนต์คืออะไร

การเช็คระยะรถยนต์คืออะไร ?

การตรวจเช็คระยะรถยนต์ คือ การตรวจสอบ และบำรุงรักษารถยนต์ตามระยะทางหรือเวลาที่กำหนด เพื่อให้แน่ใจว่ารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบและเปลี่ยนชิ้นส่วนสำคัญ เช่น น้ำมันเครื่อง, กรองน้ำมัน, และระบบต่าง ๆ ในรถยนต์ตามคำแนะนำของผู้ผลิตและคู่มือการใช้งาน

ทำไมถึงต้องเช็คระยะรถยนต์

การนำรถเข้าศูนย์เช็คระยะตามกำหนดที่เหมาะสมนั้นมีส่วนช่วยยืดอายุการทำงานของรถยนต์ เนื่องจากการใช้งานรถทุกวันทำให้เกิดการเสื่อมสภาพ อาจทำให้อะไหล่สึกหรอจนส่งผลต่อระบบอื่น ๆ ดังนั้นการตรวจเช็คจึงช่วยให้เรารู้ว่ามีระบบไหนที่เริ่มเสื่อม ต้องทำการเปลี่ยนอะไหล่ หรือทำการซ่อมบำรุง

การเช็คระยะรถยนต์ “แต่ละช่วง” เช็คอะไรบ้าง

การเช็คระยะรถยนต์แต่ละช่วง” เช็คอะไรบ้าง ?

ระยะเวลา ระยะทาง สิ่งที่ตรวจเช็ค
1-6 เดือน 5,000 กิโลเมตร

– เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรอง

– ตรวจเช็คยางรถยนต์

– ระบบจานเบรกและผ้าเบรก

6-12 เดือน 10,000 กิโลเมตร

– ตรวจเช็คเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องพร้อมไส้กรอง

– สลับยาง ถ่วงล้อ

– ตรวจความเสื่อมสภาพของที่ปัดน้ำฝน

– ตรวจเช็คระบบเบรก ระบบคลัตช์

– ตรวจดูการรั่วซึมของท่อและสายน้ำมันคลัตช์

– ระบบช่วงล่างทั้งโช้คอัพหน้า-หลัง

12-24 เดือน 20,000 กิโลเมตร

– เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไส้กรองและน้ำมันเกียร์

– ดูความตึงและหย่อนของสายพานขับและสายพานเครื่องยนต์

– เช็คระบบช่วงล่างไล่มาตั้งแต่ระบบบังคับเลี้ยว ระบบคันชัก-คันส่ง ลูกหมาก

12-24 เดือน 40,000 กิโลเมตร

– เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรอง เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรก น้ำมันคลัตช์ น้ำมันพวงมาลัย น้ำมันเกียร์ออโต้ และน้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์

– เปลี่ยนสายพานขับปั๊ม สายพานแอร์ และใบปัดน้ำฝน

36 เดือน 60,000 กิโลเมตร

– เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรอง

– เปลี่ยนอุปกรณ์บางอย่างที่ถึงอายุการใช้งาน เช่น แบตเตอรี่, หัวเทียน, กรองน้ำมันเชื้อเพลิง ฯลฯ

60 เดือน 100,000 กิโลเมตร

– ยางล้อรถยนต์

– ตรวจเช็คและระบบของเหลวในรถทั้งหมด

– หม้อน้ำทั้งระบบ ท่อยางหม้อน้ำบน-ล่าง

ข้อดีของการเช็คระยะรถของคุณเป็นประจำ

การตรวจเช็ครถยนต์คู่ใจตามที่กำหนด แม้จะทำให้เสียเวลาหรือเสียค่าใช้จ่าย (บางอย่าง) ไปบ้าง แต่ถือว่าลดโอกาส เครื่องยนต์มีปัญหา หรือรถมีปัญหาได้ดีระดับหนึ่ง ซึ่งการเช็คระยะรถเป็นประจำมีข้อดีดังนี้

  • เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน 

ตรวจสอบและซ่อมแซม เตรียมความพร้อมของรถยนต์ก่อนเกิดปัญหาได้

  • เพื่อเพิ่มมูลค่ารถยนต์ 

หากมีการดูแลรักษาสภาพรถยนต์ให้ดูดีทั้งภายนอกและภายใน ทำให้รถยนต์ของคุณมีมูลค่าที่ดีดังเดิม เพราะสามารถรักษาสภาพ และคุณภาพการใช้งานไว้ได้ดีที่สุด เมื่อต้องการขายต่อ คุณจะได้รับราคาดีไปด้วย

  • ประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากขึ้น

การเช็คระยะรถยนต์ตามเวลาที่กำหนดนั้น จะช่วยให้เราได้รับการซ่อมแซม หรือเปลี่ยนอุปกรณ์ได้ตรงตามเวลาอายุการใช้งาน หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงตามกำหนด และเกิดการเสียหายอาจทำให้เสียเงินมากกว่าที่ควร

ไม่เช็คระยะรถยนต์เป็นอะไรไหม ?

หากไม่เช็คระยะรถยนต์ตามที่กำหนด เจ้าของรถจะไม่ทราบเลยว่ารถของตัวเองมีอุปกรณ์ชิ้นไหนแตกหัก เสียหาย เสื่อมสภาพ และต้องเปลี่ยนใหม่บ้าง กว่าจะมารู้ว่ารถมีปัญหาก็อาจต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงมากเกินจำเป็น และยังเสี่ยงต่ออุบัติเหตุด้วย ดังนั้นการเช็คระยะตามเวลาที่ศูนย์กำหนด จึงเป็นเรื่องที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่รถของเราจะได้มีประสิทธิภาพการใช้งานได้ดีตลอดเวลา และที่สำคัญถึงแม้ว่าระยะการใช้งานรถยนต์ยังไม่ถึงตามที่ศูนย์กำหนด แต่ระยะเวลาถึงแล้ว แนะนำว่าควรเข้าไปตรวจเช็คระยะรถยนต์ได้เลย เมื่อทำการตรวจเช็คเสร็จเรียบร้อย ทางทีมช่างจะทำการเขียนระบุแจ้งเอาไว้ ว่านัดครั้งถัดไปจะต้องเข้ามาเช็คระยะเมื่อไหร่

เช็คระยะรถยนต์อู่นอก vs ศูนย์บริการ

เช็คระยะรถยนต์อู่นอก vs ศูนย์บริการ

เช็คระยะรถยนต์อู่นอก จะมีข้อที่โดดเด่นอย่างชัดเจน คือ เรื่องการถ่ายของเหลวมีราคาที่ถูกกว่า แต่อุปกรณ์บางส่วนที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ อาจไม่ได้รับการดูแลที่ครอบคลุม ส่วนศูนย์บริการจะมีการคิดค่าแรง ค่าบริการตามการตรวจเช็ค และได้รับการตรวจสอบจุดสำคัญได้อย่างครบถ้วน และสุดท้ายเรื่องอะไหล่ที่ใช้งานอาจมีความแตกต่างด้วย

ดังนั้น การเลือกใช้บริการเช็คระยะรถยนต์ที่อู่นอกหรือศูนย์บริการขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง รวมถึงงบประมาณ, ความต้องการในเรื่องของคุณภาพการบริการ, และความสำคัญของการรักษามาตรฐานของผู้ผลิตรถยนต์ หากคุณต้องการความมั่นใจในคุณภาพและการรับประกัน ศูนย์บริการอาจเป็นตัวเลือกที่ดีในการเช็คระยะรถ แต่ถ้าคุณต้องการความคุ้มค่าและความยืดหยุ่น อู่นอกอาจตอบสนองความต้องการของคุณได้ดีครับ

การเช็คระยะรถยนต์จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า และจำเป็นเพื่อรักษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพของรถยนต์ของคุณ การปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตและตารางการบำรุงรักษาจะช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยในทุกการเดินทางครับ ดังนั้น เมื่อสภาพรถยนต์ของคุณพร้อมขับขี่ และต้องการหารายได้พิเศษเพิ่มเติมก็สามารถ สมัคร GrabCar หรืออยากดูรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ https://www.grab.com/th/driver/drive/