หมดยุคที่ต้องเสียเวลาไปทั้งวันเพื่อต่ออายุใบขับขี่ที่ขนส่ง เพราะยุคนี้เขาเปลี่ยนมาใช้จองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์ ที่สามารถต่อได้ทั้งภาษีและซื้อประกันรถยนต์ ตลอดจนสามารถต่อภาษีรถได้อีกด้วย การจองคิวต่อใบขับขี่ล่วงหน้า ผ่านระบบออนไลน์กับแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือผ่านทางเว็ปไซต์ www.dlt-elearning.com จึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ขั้นตอนการจองคิวทำใบขับขี่ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue
สำหรับมือใหม่แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน สามารถทำตามขั้นตอนคิวจองคิวทำใบขับขี่ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue ง่าย ๆ ดังนี้
- ดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน DLT Smart Queue ใช้ได้ทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS
- ลงทะเบียน กรอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อสมัครใช้งานและสร้างรหัสผ่านเพื่อเข้าสู่ระบบ
- เข้าสู่ระบบ เพียงกรอกเลขบัตรประชาชน และรหัสผ่าน
- เลือกประเภทงานบริการ “งานใบอนุญาต”
- เลือกประเภทใบอนุญาตขับรถ
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล
- ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ
- ใบอนุญาตพรบ.ขนส่ง
- เลือกประเภทรับบริการ
- ทำใบอนุญาตขับรถใหม่
- ต่อใบอนุญาขับรถ
- เลือกประเภทยานพาหนะ
- กรอกข้อมูลใบอนุญาตขับขี่ (วันหมดอายุบัตรเดิม)
- เลือกประเภทงานที่ต้องการ
- เลือกวันและเวลาที่ต้องการ
- ตรวจสอบข้อมูลการจอง ยืนยันการจองคิวเสร็จสิ้น
เอกสารที่ต้องแสดงต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่ง
- บัตรประชาชนตัวจริง
- ใบขับขี่ฉบับเดิมที่หมดอายุ
- ใบรับรองแพทย์
- หลักฐานผ่านการอบรมออนไลน์ ไม่เกิน 6 เดือน
กรณีอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ล่วงหน้า
ใบขับขี่สามารถดำเนินการล่วงหน้าได้ไม่เกิน 180 วัน หรือ 6 เดือน ไม่ว่าจะเป็นการทำใบขับขี่ 2 ปีเป็น 5 ปี หรือชนิด 5 ปีเป็น 5 ปี ก็ใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน
หลังจากจองคิวเรียบร้อยแล้ว จะต้องปฏิบัติดังนี้
- ต้องไปติดต่อก่อนเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
- เตรียมเอกสารให้เรียบร้อย
- หากไม่มาติดต่อภายในวันเวลาที่กำหนดจะถือว่าสละสิทธิ์ และต้องทำการจองคิวใหม่
- เดินทางไปที่สำนักงานขนส่งที่สะดวกตามวันนัด และแสดงเอกสารการอบรมและการจองคิวแก่เจ้าหน้าที่
- หากไม่ได้มาตามวันและเวลาที่ทำการจองคิวไว้จะถือว่า สละสิทธิ์
การแต่งกายจะต้องแต่งกายให้สุภาพ (กางเกงขายาว, รองเท้าหุ้มหรือรัดส้น) **ห้ามใส่กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ ***โปรดสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่มาติดต่อราชการ ***เจ้าหน้าที่ขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกการจองของผู้รับบริการในกรณีที่ผู้รับบริการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด
ต่อใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี ต้องทำอะไรบ้าง
ใบขับขี่หรือใบอนุญาตขับรถ ถือเป็นเอกสารทางราชการที่ทางกรมขนส่งทางบกออกให้เพื่อยืนยันว่าบุคคลนั้นมีคุณสมบัติในการขับขี่รถยนต์ โดยใบขับขี่จะมีอายุการใช้งานของมัน เมื่อครบวันที่กำหนดเราต้องทำการไปต่อใบขับขี่ที่กรมขนส่งทางบก และหากเพื่อนๆ อยากต่อใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี ต้องทำอะไรบ้าง
โดยข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบก ได้มีการผ่อนคลายการดำเนินต่ออายุใบอนุญาตขับรถและใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถสามารถดำเนินการได้ทั้งแบบจองคิว และ Walk in ทุกสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 และสำนักงานขนส่งทั่วประเทศ
เอกสารสำหรับต่อใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี
- บัตรประชาชนฉบับจริง
- ใบขับขี่ชนิดชั่วคราวที่ยังไม่หมดอายุ (ภายใน 2 เดือนก่อนหมดอายุ) หรือหมดอายุไม่เกิน 1 ปี
- ใบรับรองแพทย์แสดงว่า ผู้ขอไม่มีโรคประจำตัวอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ และไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ซึ่งมีอายุใช้ได้ตามที่แพทย์ผู้รับรองกำหนด แต่ต้องออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน
ขั้นตอนต่อใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี
- จองคิวผ่านแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue หรือผ่านเว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th ของกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น
- ยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร และรอออกใบคำขอให้
- ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
- ทดสอบการมองเห็นสี ที่จำเป็นในการขับรถ
- ทดสอบสายตาทางลึก
- ทดสอบสายตาทางกว้าง
- ทดสอบปฏิกิริยาเท้า (ความสามารถในการใช้เบรกเท้า)
- ถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่
- ค่าใช้จ่ายในการต่อใบขับขี่หมดอายุ รถยนต์ 505 บาท (ค่าใบขับขี่ 500 บาท + 5 บาทค่าคำขอ)รถจักรยานยนต์ 255 บาท และกรณีที่มีการแก้ไข 50 บาท
หมายเหตุ
- กรณีสิ้นอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี เพิ่มขั้นตอนทดสอบข้อเขียน
- กรณีสิ้นอายุเกิน 3 ปี เพิ่มขั้นตอนอบรม / ทดสอบข้อเขียน / ทดสอบขับรถ
แต่ถึงอย่างไรถ้าหากคุณเกิดอุบัติเหตุแล้วตำรวจจราจรมาขอตรวจเข้า ก็ต้องเสียค่าปรับอยู่ดี เพราะฉะนั้น จัดการต่อใบขับขี่ให้เรียบร้อยจะดีที่สุดหลังจากนะคะ หลังจากที่ต่อใบขับขี่แล้วก็สามารถขับ Grab ได้อย่างสบายใจไม่ต้องกลัวโดนปรับ ซึ่งหากใครที่สนใจสมัครเป็นคนขับแกร็บ
ตอนนี้มีโปรโมชั่นสำหรับคนขับใหม่รอคุณอยู่อีกเพียบ สนใจขับรถส่งคน หรือส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ สมัครเลย